เพียงเพราะเคยคิดว่าจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป แต่คำว่าตราบฟ้าดินสลาย แท้จริงแล้วไม่เคยมีอยู่จริง
สักวันเราย่อมต้องปล่อยมือจากกัน
เหมือนที่ ฟรานเชสโก ต็อตติ ต้องตัดใจบอกลาโรมา ในวันที่เศร้าที่สุดวันหนึ่งในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเกมฟุตบอล และยังคงตราตรึงในความทรงจำของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะเหล่าโรมันนิสตา
ช่วงเวลาสุดท้ายที่งดงามในความเศร้า
โบราณว่าเราต่างเกิดมาบนโลกใบนี้เพื่อทำอะไรสักอย่าง หรือเป็นอะไรสักอย่าง สำหรับใครสักคน
เหมือนผมเองที่เกิดมาเพียงเพื่อขีดๆ เขียนๆ เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านตาและผ่านใจออกมาให้คุณผู้อ่านของ THE STANDARD ได้อ่านตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
และคุณผู้อ่านเองก็คงเกิดมาเพื่อทำอะไรสักอย่าง เป็นอะไรสักอย่าง หรือเกิดมาเพื่อใครสักคนไม่ต่างกัน
เช่นเดียวกัน ฟรานเชสโก ต็อตติ นั้นเกิดมาพร้อมกับดวงชะตาอันยิ่งใหญ่ แม้จะไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักรบที่จะบุกพิชิตแดนดินไปทั่วเหมือน จูเลียส ซีซาร์ แต่ฟ้าได้มอบพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่มาเพื่อให้เด็กหนุ่มชาวโรมันพาสโมสรฟุตบอลเก่าแก่แห่งกรุงโรมไปสู่จุดสูงสุด
ต็อตติ คือนักฟุตบอลที่เป็นสายเลือดแท้ของโรมาและได้กลายเป็นนักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลโดยไร้ใครเปรียบ
เด็กหนุ่มหน้ามนก้าวจากทีมเยาวชนของสโมสรมาลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของโรมาตั้งแต่อายุ 16 ปี ซึ่งสำหรับลีกที่ยุคสมัยนั้นแข็งแกร่งโหดหินที่สุดอย่างเซเรีย อา อิตาลี การที่ต็อตติได้โอกาสลงสนามตั้งแต่ยังอายุไม่ครบ 17 ปีถือเป็นเรื่องพิเศษ
และมันยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกเมื่อเขาได้รับมอบปลอกแขนกัปตันทีมของสโมสรตั้งแต่อายุเพียงแค่ 21 ปี ไม่เคยมีสุดยอดนักเตะคนไหนที่ได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้ในวันเท่านี้มาก่อน
โดยที่ปลอกแขนกัปตันทีมนี้อยู่กับเขามาอย่างยาวนานถึง 19 ปี
นานมากเกินพอที่แม้จะไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ แต่ในความรู้สึกแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่นานเกินไป
จริงอยู่ที่ภายใต้การนำของเขา โรมาทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนอย่างการพิชิตสคูเด็ตโตได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรในฤดูกาล 2000/01
แต่นอกเหนือจากนั้นคือแชมป์ในประเทศอย่างโคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย
มันเป็นรางวัลของความสำเร็จที่น้อยเกินไปมากสำหรับนักฟุตบอลผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ไม่เฉพาะในอิตาลีแต่รวมถึงในโลกใบนี้ด้วย
หนึ่งในคำถามที่ไม่มีวันหาคำตอบได้คือหากต็อตติ มีโอกาสจะย้ายไปเล่นให้กับสุดยอดสโมสรอื่นๆ ในยุโรป – โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ที่ปรารถนาได้ตัวเขาไปร่วมทีมและเคยพยายามที่จะคว้าตัวมาร่วมทีมแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ – ในบ้านของเขาจะต้องต่อตู้เพื่อเก็บถ้วยรางวัลเพิ่มขึ้นอีกมากแค่ไหน
แต่ต็อตติไม่เคยจากโรมาไปไหน
และเขาต้องการจะอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล
ฟังเช่นนี้มันเหมือนนิยายรักโรแมนติกลูกหนังชั้นดี ราชันหมาป่าผู้อยู่คู่โรมตราบฟ้าดินสลาย
ในชีวิตจริงแล้วกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะต็อตติแก่ตัวลงทุกวัน จากกัปตันวัยหนุ่มผู้สง่างาม เขากลายเป็นตาเฒ่าขี้บ่นอารมณ์เสียที่พร้อมจะฟาดงวงฟาดงาใส่ทุกคนโดยไม่เคยเกรงใจใครทั้งนั้น
ใช่สิ เขาคือราชัน คือจักรพรรดิแห่งโรม คือพระเจ้าของโรมันนิสตา ทำไมจะต้องเกรงใจใคร
แต่อย่างช้าๆ โดยไม่ทันได้รู้ตัว ต็อตติ เริ่มกลายเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ของโรมา ที่ไม่มีใครรู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับเขาดีกันแน่ และไม่มีใครรู้ว่าควรจะจัดการกับเขาอย่างไร เมื่อโดยสถานะทางความรู้สึกแล้วต็อตติคือบุคคลที่ไม่มีใครสามารถแตะต้องได้ สโมสรต้องต่อสัญญาให้เขาเสมอ
ครั้นจะไล่จากทีมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ไม่พอ เจ้าตัวยังคงรั้นและเชื่อว่าจะสามารถลงมาทำอะไรให้กับทีมได้เหมือนเดิมด้วย
การต้องรับมือกับต็อตติโดยที่ต้องบริหารจัดการทีมไปพร้อมกันกลายเป็นเรื่องที่สร้างความระทมทุกข์ให้แก่ลูชาโน สปัลเล็ตติ นายใหญ่ของทีมในเวลานั้นเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ส่งลงก็ผิด ส่งลงก็ผิด ไม่เคยมีคำว่าถูก
บรรยากาศในทีมโรมา ในช่วงเวลานั้นจึงอึมครึมเป็นอย่างยิ่ง ลึกๆ แล้วในความรู้สึกของทุกคนต่างรู้ดีว่ามันใกล้ถึงวันที่ต็อตติต้องไปจากทีม
เพียงแต่ต้องมีใครสักคนที่กล้าจะบอกกับเขาตรงๆ
สุดท้าย มอนชี ผู้อำนวยการสโมสรตัดสินใจที่จะบอกถึงการตัดสินใจของสโมสรที่จะต่อสัญญาให้กับเขาอีกครั้งเดียว ฤดูกาล 2016/17 จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของต็อตติกับโรมา หลังจากนั้นเขาจะได้เป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสโมสรที่จะได้อยู่ดูแลทีมต่อไปในอีกบทบาท
ทุกอย่างเหมือนจะดี แต่ฤดูกาลสุดท้ายของเขาที่โอลิมปิกโกสตาดิโอกลับเป็นฤดูกาลที่แสนเศร้า
เวลาและโอกาสที่เหลือน้อยลงทุกทีทำให้ทุกคนคาดหวังว่าจะได้เห็นต็อตติลงสนาม แม้กระทั่งคู่แข่งมากมายหลายทีมที่ต่างส่งเสียงเพรียกร้องขอให้สปัลเล็ตติ ช่วยส่งราชันหมาป่าลงสนามมาเพื่อให้ทุกคนได้แสดงความเคารพเป็นครั้งสุดท้าย
แต่บ่อยครั้งที่สปัลเล็ตติเลือกที่จะขัดใจทุกคน รวมถึงต็อตติด้วย เพราะงานหลักของเขาไม่ใช่การทำเพื่อเอาใจใครเป็นพิเศษ แต่เป็นการนำโรมาไปให้ไกลที่สุด
ยิ่งใกล้วันสุดท้ายมากเท่าไร ความเศร้าก็ยิ่งกัดกินหัวใจทุกคนมากขึ้นเท่านั้น
รวมถึงต็อตติด้วยที่ยิ่งใกล้ถึงช่วงเวลาสุดท้ายเท่าไร ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเขายังไม่พร้อมที่จะไป
เปรียบไปก็เหมือนคนที่ถึงที่ตายแต่ไม่พร้อมที่จะจากไป
อย่างไรก็ดี ไม่มีอะไรหยุดยั้งกาลและเวลาได้ วันสุดท้ายของต็อตติมาถึงในเกมนัดส่งท้ายฤดูกาล ซึ่งเหมือนทุกอย่างถูกจัดฉากไว้เพราะโรมาได้เล่นรับมือกับเจนัวในนัดสุดท้ายของฤดูกาลพอดี เพื่อให้ทุกคนในสนามได้มาเพื่อบอกรักและบอกลาเจ้าชายของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย
“TOTTI 10”
“Amore Infinito” รักตลอดไป
และข้อความบอกรักอีกมากมายนับไม่ถ้วน
แต่ถึงอย่างนั้นสปัลเล็ตติ ก็ยังใจแข็งไม่ได้เลือกให้เขาลงเป็นตัวจริงในเกมนั้นอยู่ดีเพราะโรมายังต้องการผลการแข่งขันเพื่อรักษาโอกาสไปเล่นยูฟาแชมเปียนส์ลีกอยู่
สุดท้ายสปัลเล็ตติ ให้โอกาสต็อตติ ได้ลงสนามมาแทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในนาทีที่ 54 ของเกม ซึ่งแม้เขาจะไม่สามารถทำประตูหรือสร้างอภินิหารอะไรให้ทุกคนได้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะพยายามเอาใจช่วยกันแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่เราก็พอมองเห็นประกายของอัจฉริยะลูกหนังแม้ว่ามันจะอ่อนแรงลงจนแทบไม่เหลือแล้วก็ตาม
ดีเอโก เปร็อตติ ปีกอาร์เจนไตน์ทำประตูในช่วงนาทีสุดท้ายให้โรมาเฉือนเอาชนะเจนัวได้สำเร็จอย่างสุดมัน 3-2
แต่การฉลองนั้นแสนสั้น
เพราะการบอกลาที่แสนยาวนานกำลังจะมาถึง
เรื่องราวหลังจากนั้นหากใครได้ชมการถ่ายทอดสดน่าจะพอจดจำได้บ้างว่าบรรยากาศมันเศร้ามากแค่ไหน
ไม่มีดวงตาคู่ไหนที่ไม่มีน้ำตารินไหล
ต็อตติเองก็เช่นกัน เขาไม่พร้อมที่จะไป แต่มันถึงเวลาที่ต้องจากกันแล้ว
“ผมกลัวเหลือเกิน” วีรบุรุษแห่งโรมากล่าว “ผมมองไม่เห็นว่าอนาคตเป็นเช่นไร”
“ลองจินตนาการว่าเราเป็นเด็กที่กำลังหลับฝันดี…แล้วอยู่ๆ แม่ก็เข้ามาปลุกเพื่อบอกให้ไปโรงเรียน”
“คุณอยากจะฝันต่อ แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีวันกลับไปในความฝันเดิมได้อีกแล้ว
“สำหรับครั้งนี้ มันไม่ใช่ความฝันแต่คือความจริงและผมไม่สามารถจะกลับไปในนั้นได้อีกแล้ว”
ไม่มีใครสะกดน้ำตาได้แล้วในเวลานั้น เพราะทุกคนรู้ดีว่าหลังเวลาผ่านมาถึง 25 ปี กับ 786 นัด 307 ประตู พวกเขาจะไม่มีต็อตติอีกต่อไปแล้ว
และคนอย่างนี้ก็จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว
แต่ในโมงยามของความเศร้านั้นเอง ทุกอย่างกลับค่อยๆ ดีขึ้น ความรักจากทุกคนทำให้ต็อตติค่อยคลายและปล่อยวางหัวใจตัวเองลง เขาได้รู้แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พยายามทำมาเพื่อทุกคนนั้น ทุกคนรับรู้และขอบคุณด้วยความรัก
หนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพิธีบอกลาอันเนิ่นนานในวันนั้นคือการส่งต่อให้แก่รุ่นต่อไปของโรมา ที่มีนักเตะเยาวชนมารับช่วงต่อจากเขา
เป็นอันสิ้นสุดยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ของราชันหมาป่า
แม้ว่าตราบฟ้าดินสลายจะไม่มีอยู่จริง
แต่รักของเขาและโรมันนิสตาทุกคนมีอยู่จริง และยังคงอยู่ตลอดไป
อ้างอิง:
- https://www.asroma.com/en/news/61162/on-this-day-francesco-totti-says-goodbye
- https://thesefootballtimes.co/2017/06/27/the-divisive-final-days-of-francesco-totti-at-roma/
- https://www.gentlemanultra.com/2025/02/19/the-ballad-of-francesco-totti-the-last-caesar/
- https://www.vice.com/en/article/the-last-days-of-francesco-totti-are-not-about-francesco-totti/
- https://www.bbc.com/sport/football/40036023