กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี คาดเงินบาทสัปดาห์นี้อ่อนค่าซื้อขายในกรอบ 36.35-37 บาท ติดตามข้อมูลจ้างงานสหรัฐอเมริกา หลังสัปดาห์ก่อนเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 10 เดือน
รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวอ่อนค่าในกรอบ 36.35-37 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.47 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายผันผวนในช่วง 35.90-36.83 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 10 เดือน ทางด้านคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นดอกเบี้ย 25bp เป็น 2.50% เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้น 11 สัปดาห์ติดต่อกัน
ขณะที่นักลงทุนประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถรับมือกับภาวะดอกเบี้ยสูงได้ดีกว่าเศรษฐกิจแห่งอื่นๆ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 16 ปี อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ลดช่วงบวกเล็กน้อย หลังดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงสู่ 3.9% ในเดือนสิงหาคมปีนี้
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 3,025 ล้านบาท และมียอดขายพันธบัตร 12,048 ล้านบาท โดยเกิดจากตราสารครบอายุ 5,175 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทในเดือนกันยายนและไตรมาส 3 อ่อนลง 4.3% และ 2.9% ตามลำดับ
ทั้งนี้ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ Government Shutdown ขณะที่ตลาดจะติดตามข้อมูลภาคบริการและการจ้างงานเดือนกันยายนของสหรัฐฯ รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยมองว่าแม้ค่าเงินดอลลาร์อาจมีจังหวะพักฐานบ้างชั่วคราวในระยะสั้น แต่ในมิติของอัตราผลตอบแทนนั้น ดอลลาร์จะยังคงได้แรงหนุนต่อไปจนกว่าตัวเลขจะสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอ่อนแรงลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะท้าทายแนวโน้มภาวะดอกเบี้ยสูงยาวนาน (Higher for Longer) ของ Fed
สำหรับประเด็นในประเทศ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกันยายน ทางด้าน ธปท. ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2567 เป็น 4.4% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.8% สะท้อนแผนกระตุ้นทางการคลัง โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต อีกทั้งภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง และการส่งออกกลับมาขยายตัว
โดย ธปท. เห็นว่ายังต้องติดตามความเสี่ยงด้านสูงของเงินเฟ้อ ทั้งนี้ กนง. ขึ้นดอกเบี้ยด้วยเสียงเอกฉันท์ โดยมองว่าดอกเบี้ยนโยบายเข้าสู่ระดับเป็นกลาง ท่าทีดังกล่าวทำให้เราประเมินว่าดอกเบี้ยนโยบายถึงจุดสูงสุดของวัฏจักรแล้ว และ กนง. มีแนวโน้มตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า
