Babel Finance แพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโตของเอเชียที่มีปัญหาสภาพคล่อง และได้ระงับการถอนเงินลูกค้าอย่างกะทันหันเมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่าบริษัทขาดทุนอย่างหนักประมาณ 280 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากการนำเงินลงทุนของลูกค้าไปซื้อขายทำกำไรให้บริษัท (Proprietary Trading)
📌 Babel Finance โดนล้างพอร์ตคริปโตไปเมื่อเดือนมิถุนายน
บริษัท Babel Finance ถูกบังคับให้ต้องล้างพอร์ตการลงทุนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมี Bitcoin ประมาณ 8,000 BTC และ Ethereum อีกจำนวน 56,000 ETH หลังจากที่ตลาดคริปโตร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ราคา Bitcoin ดิ่งลงต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งในเวลานั้นบริษัทขาดทุนอย่างหนักประมาณ 280 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากการนำเงินลงทุนของลูกค้าไปซื้อขายทำกำไรให้บริษัท (Proprietary Trading) การขาดทุนครั้งใหญ่นี้ทำให้บริษัทไม่สามารถหาเงินมาจ่าย Margin Call ให้กับคู่สัญญาได้
รายงานยังเปิดเผยว่า ทีมการซื้อขาย Prop Trade ของบริษัทมีการดำเนินการในหลายบัญชี ซึ่งไม่ได้มีการควบคุมหรือตรวจสอบจากฝ่าย Trading ซึ่งหมายความว่าไม่มีกฎเกณฑ์ควบคุมเกี่ยวกับการซื้อขายหรือการควบคุมความเสี่ยงในบัญชีเหล่านี้เลย รวมถึงไม่มีการรายงานกำไรขาดทุน (PNL) อีกด้วย
ทาง Babel Finance ได้ชี้แจ้งว่า “บริษัทกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ และที่ปรึกษาของบริษัทในช่วงเวลาที่ยากลำบากในอุตสาหกรรมนี้ โดยเชื่อว่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์และเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับทุกฝ่าย”
📌 ผลกระทบที่ลุกลามมาจาก Celsius และ 3AC
วิกฤตสภาพคล่องที่เกิดขึ้นกับหลายบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโต เริ่มต้นมาจากการร่วงลงของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีนับตั้งแต่ต้นปี และการล่มสลายของเครือข่าย Terra ที่ทำให้เหรียญ LUNA-UST ดิ่งลงจนแทบไร้มูลค่า ทำให้บริษัทที่มีการถือครองในเหรียญเหล่านี้ขาดทุนหนัก จนไม่สามารถหาเงินมาวางหลักประกันได้และเกิดการผิดชำระหนี้ Babel Finance เป็นหนึ่งในบริษัทคริปโตที่ได้รับผลกระทบโดมิโนต่อจาก Celsius, Voyager Digital และ Three Arrows Capital (3AC) ซึ่งทาง Babel Finance แพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโตของฮ่องกงได้ระงับการถอนเงินเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา จากปัญหาด้านสภาพคล่อง
นอกจากนี้การระงับถอนเงินบาทและคริปโตชั่วคราวของ Zipmex เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ยังได้รับผลกระทบมาจาก Babel Finance และ Celsius อีกด้วย เนื่องจากทาง Zipmex Thailand ได้มีการฝากเงินกับ Babel Finance จำนวน 48 ล้านดอลลาร์ และที่ Celsius อีกจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1.8 พันล้านบาท
คงต้องติดตามกันต่อไปว่าผลกระทบครั้งนี้จะไปสิ้นสุดที่ไหน สำหรับทาง Babel Finance มีรายงานว่าบริษัทมีแผนฟื้นฟูบริษัท โดยจะมีการระดมทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ในตราสารหนี้และตราสารทุนต่อไป
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP