วันนี้ (31 สิงหาคม) THE STANDARD ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมขังในตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล พบว่า มีประชาชนประมาณ 100 หลังคาเรือน ประมาณ 300 คน อยู่ด้วยความยากลำบาก โดยน้ำเริ่มท่วมขังตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมีน้ำท่วมขังในหลายระดับ และมีระดับน้ำที่สูงขึ้น
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นกล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้สถานการณ์น้ำมาเร็วกว่าปกติ แต่ที่ยังขาดแคลน เช่น ยารักษาโรค, ยารักษาน้ำกัดเท้า, ข้าวสารอาหารแห้ง และผ้าอ้อมผู้ใหญ่สำหรับผู้ป่วยติดเตียง
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติออกประกาศเตือนฉบับที่ 35/2565 เรื่อง เฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์จะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 3-8 กันยายน 2565 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา จากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)
คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 2,000-2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 1,800-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 0.40-0.50 เมตร
ส่งผลให้ช่วงวันที่ 1-10 กันยายน บริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ มีพื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น คลองบางบาล อำเภอบางบาล, ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ ได้รับผลกระทบด้วย