บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป หรือ AWC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติที่สำคัญดังนี้
โดยบอร์ด AWC มีมติอนุมัติการได้มาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด เพื่อให้ได้มาซึ่งโครงการโรงแรมแล อาคารสำนักงานเลอ คองคอร์ด จากนิติบุคคล ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ โดยมีมูลค่ารวมสุทธิประมาณ 4,415 ล้านบาท และเงินลงทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการจำนวนประมาณ 4,289 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) การเข้าทำรายการนี้คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 8,704 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นอกจากนี้มีมติให้บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย เข้าลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมอีกจำนวน 4,900 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 49% ในอัตราหุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 490,000 บาท จากนิติบุคคล ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ และจัดเงินกู้ผู้ถือหุ้นรวมประมาณ 8,768 ล้านบาท (เงินกู้ผู้ถือหุ้น 64 ล้านบาท และเงินกู้ผู้ถือหุ้นใหม่ 8,704 ล้านบาท)
โดยการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย เป็นเจ้าของหุ้นสามัญทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วน 100% ในบริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัด และจะดำเนินการให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้เข้าลงทุนในบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด
การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะมีผลให้บริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด มีทรัพย์สินครอบคลุมอาคารสำนักงานขนาด 45,792 ตารางเมตร และโรงแรมขนาด 407 ห้อง ที่ช่วยสร้างกระแสเงินสดได้อย่างทันทีให้กับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการนี้ภายใต้ชื่อ Jubilee Prestige Tower ให้เป็นอาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ และโรงแรมหรูภายใต้แบรนด์ JW Marriott ที่บริหารงานโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เครือโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนรัชดาภิเษก
โดยมีแผนพัฒนาให้เป็นโมเดล AWC’s Lifestyle Destination ผสมผสาน Wellness และ ประสบการณ์แบบ Bleisure และ Luxury MICE พร้อมเปิดดำเนินการได้เต็มรูปแบบภายใต้แบรนด์ใหม่ภายในปี 2571
ตั้ง ‘เจ้าสัวเจริญ’ นั่งเก้าอี้ประธานกิตติมศักดิ์
นอกจากนี้ยังมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน เพื่อพิจารณาอนุมัติการเลือกตั้งกรรมการที่ออกจากตำแหน่งจำนวน 5 ท่าน ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
- เจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ
- บุญทักษ์ หวังเจริญ รองประธานกรรมการ
- สิทธิชัย ชัยเกรียงไกร กรรมการ
- พล.ต.อ. รุ่งโรจน์ แสงคร้าม กรรมการอิสระ
- โสมพัฒน์ ไตรโสรัส กรรมการ
ทั้งนี้ เนื่องจาก เจริญ สิริวัฒนภักดี แสดงความประสงค์ไม่กลับเข้าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของบริษัทฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งไม่รวมกรรมการผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงมีมติให้เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ พิจารณาเลือกตั้งกรรมการจำนวน 4 ท่านข้างต้นกลับเข้าดำรงตำแหน่งเดิมอีกวาระหนึ่ง และมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนเพื่อพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้ง กรรมการเข้าใหม่อีกหนึ่งท่านคือ ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัทฯ
นอกจากนี้มีมติอนุมัติแต่งตั้ง เจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นประธานกิตติมศักดิ์ เนื่องจากเป็นผู้มีคุณูปการต่อบริษัทฯ ในฐานะผู้นำที่สร้างคุณค่าและมีบทบาทนำพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติแต่งตั้ง เจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นประธานกิตติมศักดิ์ โดยให้มีผลในวันที่ 29 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
พร้อมทั้งมีมติอนุมัติเลือกตั้ง บุญทักษ์ หวังเจริญ รองประธานกรรมการ ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการแทนท่านที่พ้นจากตำแหน่ง โดยให้มีผลในวันที่ 29 เมษายน 2568 เป็นต้นไป