นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย เปิดเผยวันนี้ (3 กันยายน) ว่ารัฐบาลออสเตรเลียสามารถจัดหาวัคซีน Pfizer ได้เพิ่มอีก 4 ล้านโดส จากการทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนวัคซีนกับอังกฤษ ซึ่งคาดว่าวัคซีนจะถูกจัดส่งถึงออสเตรเลียในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
“เครื่องบินอยู่บนลานจอดแล้วในตอนนี้ มันจะออกเดินทางพรุ่งนี้ วัคซีนเหล่านั้นจะมาถึงในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะทำให้เราได้วัคซีน Pfizer เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของที่เรามีในช่วงเดือนกันยายน” มอร์ริสันกล่าว
นอกจากอังกฤษ รัฐบาลออสเตรเลียยังทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนวัคซีนกับประเทศโปแลนด์และสิงคโปร์ เพื่อให้ได้วัคซีน Pfizer เพิ่มมากขึ้น หลังเผชิญกระแสวิจารณ์จากความล้มเหลวในการจัดหาวัคซีน Pfizer ในช่วงแรกๆ ที่เกิดการระบาดของโควิด
ซึ่งออสเตรเลียตกลงที่จะส่งคืนวัคซีนแก่ประเทศที่ทำข้อตกลงร่วมกันในภายหลัง เมื่อมีวัคซีนภายในประเทศเพียงพอ แต่ไม่มีการเผยรายละเอียดที่ชัดเจน โดยรายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า ออสเตรเลียจะจัดส่งวัคซีนคืนให้แก่อังกฤษได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันคาดว่าวัคซีน Pfizer ที่จะได้รับเพิ่ม 4 ล้านโดส จะช่วยให้รัฐบาลออสเตรเลีย สามารถเดินหน้าเปิดประเทศได้เร็วกว่าที่วางแผนไว้
“สิ่งนี้จะช่วยนำโอกาสที่สำคัญให้กับออสเตรเลีย เพื่อเปิดประเทศอีกครั้งภายใต้แผนงานระดับชาติ” เขากล่าว
โดยปัจจุบัน ออสเตรเลียมีอัตราฉีดวัคซีนให้ประชาชนเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1.9 ล้านโดส และมีประชากรอายุเกิน 16 ปีขึ้นไปได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วราว 3% ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)
ขณะที่สถานการณ์ระบาดของโควิดในออสเตรเลียยังทวีความรุนแรง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากกว่า 1,300 คนต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหลายเมืองใหญ่ ทั้งซิดนีย์ เมลเบิร์น และกรุงแคนเบอร์รา ยังคงบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่ส่งผลกระทบต่อประชากรภายในเมืองมากกว่าครึ่ง
อย่างไรก็ตาม เกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย ระบุว่า ออสเตรเลียจะได้รับวัคซีนโควิดในช่วงเดือนนี้รวมมากกว่า 10 ล้านโดส ในจำนวนนี้รวมถึงวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศออสเตรเลีย วัคซีน Pfizer 1 ล้านโดสจากโปแลนด์ และวัคซีนจาก Moderna 1 ล้านโดส ที่คาดว่าจะมาถึงในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนกันยายน
ภาพ: Photo by Rohan Thomson / Getty Images
อ้างอิง: