ทางการออสเตรเลียเร่งติดตามพลเมืองหลายร้อยคนที่ไปร่วมงานปาร์ตี้ฉลองอัลบั้ม ‘Red’ ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ในนครซิดนีย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังงานดังกล่าวกลายเป็นกิจกรรม Superspreading ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิดในออสเตรเลียพุ่งสูงทำสถิติใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่าเวลานี้ออสเตรเลียได้เข้าสู่ ‘ระยะการแพร่ระบาดที่ต่างไปจากเดิม’ โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมีสายพันธุ์โอไมครอนที่ระบาดได้ง่ายรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม มอร์ริสันยังไม่ตัดสินใจล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการระบาด
“จำนวนผู้ป่วยไม่ใช่ตัวชี้วัดอีกต่อไป แต่ตัวชี้วัดแท้จริงคือการป่วยรุนแรง (ผู้ป่วยหนัก), การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล, แรงกดดันต่อระบบโรงพยาบาล” มอร์ริสันสรุปสถานการณ์การระบาดต่อสื่อมวลชนวันนี้
ทั้งนี้การระบาดระลอกใหม่มีคลัสเตอร์จากผับและไนต์คลับ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังจากที่อัตราการฉีดวัคซีนในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
ทางการระบุว่าพบผู้ติดเชื้อโควิดอย่างน้อย 97 ราย ซึ่งรวมถึงเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในกลุ่มประชาชนที่ไปร่วมงานปาร์ตี้ฉลองอัลบั้มของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ โดยงานนี้มีผู้เช็กอินมากกว่า 600 คน แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าอาจมีมากกว่านั้น
สำหรับตัวเลขโดยรวมในวันศุกร์ (17 ธันวาคม) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,820 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรัฐที่มีประชากรหนาแน่นอย่างนิวเซาท์เวลส์และวิกตอเรีย โดยตัวเลขนี้แซงหน้า 3,400 รายที่บันทึกได้ในวันพฤหัสบดี (16 ธันวาคม)
ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์เตือนว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในรัฐดังกล่าวอาจพุ่งแตะ 25,000 รายภายในสิ้นเดือนมกราคม ในขณะที่ทางการเตรียมเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชนเพื่อสกัดการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน
ภาพ: Jaimi Joy / REUTERS / File Photo
อ้างอิง: