ออง ซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมาที่ถูกกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปีที่แล้ว ถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชันเป็นข้อหาล่าสุด และนับเป็นข้อหาที่ 11 เพิ่มเติมจากข้อกล่าวหาต่างๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีโทษจำคุกรวมกันมากกว่า 150 ปีแล้ว
แถลงการณ์โดยทีมสารสนเทศของกองทัพเมียนมาระบุว่า ตำรวจได้ยื่นฟ้องคดีทุจริตเพิ่มเติมต่อ ออง ซาน ซูจี ฐานรับเงินบริจาคจำนวน 550,000 ดอลลาร์ ซึ่งบริจาคเข้ามูลนิธิที่มีชื่อเดียวกับมารดาของซูจี แต่แถลงการณ์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าการพิจารณาคดีในข้อหานี้จะเริ่มขึ้นเมื่อใด
ออง ซาน ซูจี วัย 76 ปี ถูกกักขังนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ ซูจีถูกตัดสินจำคุกแล้ว 6 ปี ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้ต่อต้านกองทัพ ฝ่าฝืนกฎควบคุมโควิด-19 และละเมิดกฎหมายโทรคมนาคม อย่างไรก็ดี ซูจีจะยังคงถูกกักบริเวณในบ้านของเธอต่อไประหว่างสู้คดีในข้อหาอื่นๆ ซึ่งรวมถึงข้อหาละเมิดกฎหมายความลับทางราชการที่เธอถูกฟ้องร่วมกับ ฌอน เทิร์นเนลล์ นักวิชาการชาวออสเตรเลีย
สำหรับความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชันแต่ละข้อหาอาจมีโทษจำคุกถึง 15 ปี
ขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารยังได้ประกาศในสัปดาห์นี้ว่า กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ศาลจะเริ่มพิจารณาคดีที่ซูจีถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลโน้มน้าวคณะกรรมการการเลือกตั้งระหว่างการเลือกตั้งปี 2020 ที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของซูจี เอาชนะพรรคคู่แข่งอย่างพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ที่เป็นแนวร่วมของกองทัพ
ทั้งนี้ เหตุการณ์รัฐประหารได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในเมืองต่างๆ ทั่วเมียนมา ในขณะที่รัฐบาลทหารก็ได้ใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง จนส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 1,500 ราย ตามรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์ท้องถิ่น
การประกาศข้อหาล่าสุดต่อ ออง ซาน ซูจี มีขึ้นในขณะที่กองทัพเมียนมาเปิดฉากโจมตีครั้งใหม่ต่อกลุ่มต่อต้าน โดยสื่อหลายสำนัก ทั้งสื่อท้องถิ่นและสื่อต่างประเทศรายงานว่า สัปดาห์นี้กองทัพเมียนมาได้เผาบ้านเรือนประชาชนมากถึง 400 หลัง ใน 2 หมู่บ้านของเขตสะกาย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ระหว่างปฏิบัติการไล่ล่าสมาชิกของกองกำลังต่อต้านรัฐประหาร ส่งผลให้ชาวบ้านนับหมื่นต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น
ชาวบ้านจากหมู่บ้าน Mwe Tone เผยกับสำนักข่าว AP เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (3 กุมภาพันธ์) ว่า บ้าน 200 หลังจากทั้งหมด 250 หลังในหมู่บ้านถูกเผาในกองเพลิง เช่นเดียวกับบ้านเกือบ 200 หลังจาก 800 หลังในหมู่บ้าน Pan ที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่สื่อเมียนมารายงานตัวเลขใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ภาพถ่ายแสดงให้เห็นเครื่องสูบน้ำ รถแทรกเตอร์ และยานพาหนะที่ได้รับความเสียหายจากไฟที่ลุกไหม้ เช่นเดียวกับสัตว์ในฟาร์มที่ต้องสังเวยชีวิตในเปลวเพลิง
กองทัพเมียนมาขึ้นชื่อเรื่องการใช้การลอบวางเพลิงเป็นยุทธวิธีในการปราบปรามการก่อความไม่สงบ โดยคาดการณ์ว่ากองทัพเมียนมาได้เผาหมู่บ้านมากถึง 200 แห่งในปฏิบัติการทำลายล้างเมื่อปี 2017 ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ ส่งผลให้ชาวมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 700,000 คน ต้องอพยพหนีภัยข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ
ภาพ: Photo by STR / AFP
อ้างอิง:
