อดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ชนะเลือกตั้งประธาน UNESCO หลังมะกัน-อิสราเอลจ่อถอนตัว

อดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ชนะเลือกตั้งตำแหน่งเลขาธิการองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ภายใต้การลงคะแนนท่ามกลางปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
คณะกรรมการ 58 ราย ได้ลงคะแนนให้ ออเดรย์ อาซูเลย์ วัย 45 ปี เฉือนชนะคู่แข่งชาวกาตาร์ไปด้วยคะแนน 30-28
อย่างไรก็ตาม เธอยังต้องได้รับความยินยอมจากชาติสมาชิก 195 ประเทศในการประชุมสามัญที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เพื่อรับตำแหน่งต่อจาก อิรินา โบโกวา แห่งบัลแกเรีย ผู้ครองตำแหน่งเลขาธิการ UNESCO นาน 8 ปี และต้องเผชิญหน้าต่อปัญหาทางการเงินอย่างหนักหน่วง

ว่าที่เลขาธิการคนใหม่รายนี้เกิดในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีเชื้อสายยิว และเป็นบุตรสาวของ อังเดร อาซูเลย์ ที่ปรึกษาของสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมหมัดที่ 6 แห่งโมร็อกโก โดยเธอเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมมาก่อนในสมัยประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออล็องด์
ชัยชนะเหนือ ฮาหมัด บิน อับดุลลาซิซ อัล-คาวารี ไม่เป็นที่พอใจในสายตาของบรรดารัฐอาหรับนัก เนื่องจากเลขาธิการองค์กรนี้เคยมีเพียงแต่ผู้นำจากยุโรป เอเชีย แอฟริกัน และอเมริกัน
รัฐบาลกาตาร์ออกมาแสดงความยินดีต่อฝรั่งเศส ภายหลังผลคะแนนออกมา เช่นเดียวกับที่กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ที่ยกย่องว่ากระบวนการเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
ทว่าสื่อท้องถิ่นกลับมองสวนทาง หนังสือพิมพ์ Arayah โจมตีว่าความพ่ายแพ้ของตัวแทนประเทศมาจากการล็อบบี้ไม่ให้ตัวแทนของกาตาร์ชนะ
การลงคะแนนมีขึ้นภายหลังสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลแสดงความประสงค์ที่จะถอนตัวออกจาก UNESCO โดยทางอเมริกาให้เหตุผลว่าองค์การมีอคติต่ออิสราเอล เช่นเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่ตำหนิผ่านแถลงการณ์ว่า “แทนที่จะเก็บรักษาประวัติศาสตร์ แต่กลับบิดเบือนมัน”
ภายหลังการลงคะแนน ออเดรย์ปราศรัยว่า “ในเวลาที่เต็มไปด้วยปัญหา ฉันเชื่อว่าเราต้องลงทุนกับ UNESCO ให้มากกว่าครั้งไหนๆ ต้องช่วยเหลือ ส่งเสริม ปฏิรูปองค์กร และไม่ทอดทิ้งมันไป”