**บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของ Attack on Titan **
30 มีนาคม คือวันเกิดของ เอเรน เยเกอร์ ตัวละครหลักจากมังงะชื่อดังอย่าง Attack on Titan ผลงานจากปลายปากกาของ อาจารย์ฮาจิเมะ อิซายามะ ปรากฏตัวครั้งแรกในมังงะเล่มที่ 1 ในฐานะของเด็กหนุ่มที่เกิดและเติบโตมาในเขตชิกันชินะ ซึ่งถูกห้อมล้อมไปด้วย ‘กำแพง’ สูงเสียดฟ้า ที่ป้องกันไม่ให้เหล่าไททันเข้ามาโจมตี เขาจึงมีความใฝ่ฝันที่อยากจะออกไปจากกำแพง เพื่อสำรวจว่าโลกภายนอกกำแพงมีหน้าตาเป็นอย่างไร
จนกระทั่งวันหนึ่ง จู่ๆ ไททันยักษ์ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างเป็นปริศนาและทำลายกำแพงมาเรียลง ทำให้เหล่าไททันเข้ามาในกำแพงและออกไล่ล่ามนุษย์อย่างเลือดเย็น
ท่ามกลางสถานการณ์ชุลมุน เอเรนและมิคาสะจึงรีบวิ่งกลับบ้านในทันที แต่เมื่อพวกเขากลับมาถึง เอเรนกลับพบว่าร่างของแม่ติดอยู่ในบ้านที่ถูกทำลายจนไม่สามารถขยับออกไปได้ อีกทั้งยังมีไททันตัวหนึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขาอีกด้วย แม่ของเอเรนที่ตระหนักถึงชะตากรรมของตัวเองเป็นอย่างดีจึงไหว้วานให้ฮันเนส หนึ่งในหน่วยรักษาการณ์ พาเอเรนและมิคาสะหนีไป เอเรนจึงทำได้เพียงร้องไห้และเฝ้ามองแม่ที่กำลังถูกไททันสังหารเพียงเท่านั้น
เมื่อเอเรน มิคาสะ และอาร์มิน เดินทางมาถึงเรืออพยพ เขตชิกันชินะที่เป็นบ้านเกิดของพวกเขา ก็กลายสภาพเป็นเมืองที่อบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือดโดยน้ำมือของเหล่าไททัน เอเรนจึงตระหนักถึงความอ่อนแอของตัวเองที่ไม่สามารถช่วยแม่ผู้เป็นที่รักได้เลย จนในที่สุดความโศกเศร้าก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความแค้นที่อยากจะกำจัดเหล่าไททัน
“ฉันจะกำจัดพวกมันให้หายไปจากโลกนี้ ไม่ให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว!”
ประโยคสั้นๆ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเคียดแค้น จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมหาสงครามระหว่างมนุษยชาติและเหล่าไททันที่ส่งให้ Attack on Titan กลายเป็นอีกหนึ่งมังงะที่ผู้อ่านทั่วโลกต่างชื่นชม
เอเรนนับว่าเป็นหนึ่งในตัวละครหลักจากโลกมังงะที่มีมิติและพัฒนาการของตัวละครอย่างน่าสนใจและชวนติดตาม เริ่มตั้งแต่ ‘เป้าหมาย’ ของเอเรนในช่วงต้นเรื่องที่อยากจะกำจัดไททันให้หมดไปจากโลกเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ อีกทั้งเอเรนยังเป็นตัวละครที่รักพวกพ้องมากกว่าใคร ซึ่งถือเป็นคาแรกเตอร์ที่คล้ายคลึงกับตัวละครหลักจากมังงะหลายๆ เรื่อง
แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ ปมขัดแย้งต่างๆ ที่อาจารย์ฮาจิเมะปูเอาไว้อย่างแยบยลก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจิตใจของเอเรนไปอย่างช้าๆ โดยเฉพาะการเปิดเผยเรื่องราวของ กรีชา เยเกอร์ พ่อของเอเรน ว่าเขาคือชาวเอลเดียที่เดินทางมาจากประเทศมาเลย์ อีกทั้งศัตรูที่แท้จริงของพวกเขากลับไม่ใช่เหล่าไททัน แต่เป็นชาวมาเลย์ที่ส่ง ‘นักรบ’ ทั้ง 3 คนอย่าง ไรเนอร์ แบร์โทลต์ และแอนนี่ มาบุกโจมตีเพื่อหวังจะชิงพลังของไททันบรรพบุรุษ จนกลายเป็นสาเหตุให้แม่ของเอเรนและสหายร่วมรบต้องจากไป
เมื่อความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย เอเรนจึงมี ‘เป้าหมายใหม่’ ที่อยากจะปกป้องพวกพ้องของตัวเองจาก ‘มนุษย์’ ที่อยู่อีกฝากฝั่งของทะเล
“ถ้าฆ่าศัตรูที่อยู่อีกฝากของทะเลได้ทั้งหมด พวกเราก็จะเป็นอิสระใช่หรือเปล่า”
หลังจากนั้นตัวละครของเอเรนก็เริ่มพลิกบทบาทจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไล่เรียงตั้งแต่การตัดสินใจร่วมมือกับ ซีค เยเกอร์ พี่ชายผู้ถือครองพลังไททันลิง และแอบล้อมเข้ามาในมาเลย์เพื่อชิงพลังของไททันค้อนสงคราม พร้อมทั้งบดขยี้ชาวมาเลย์และชาวเอลเดียอย่างไร้ความปรานี จนทำให้หน่วยสำรวจต้องบุกมาช่วยเอเรนและซีคอย่างไม่เต็มใจ และกลายเป็นการจุดฉนวนสงครามระหว่างเกาะพาราดีและหลายประเทศทั่วโลก
ไม่เพียงเท่านั้นเอเรนยังหักหลังมิคาสะและหน่วยสำรวจด้วยการก่อกบฏ เพื่อทำตามแผนการที่ซีควางเอาไว้ โดยไม่สนใจว่าจะมีใครต้องตายจากแผนการของเขาบ้าง ซึ่งหากใครที่ติดตามเรื่องราวของ Attack on Titan ฉบับมังงะจนถึงตอนล่าสุดก็คงจะทราบกันดีว่า ณ เวลานี้ เอเรนได้กลายเป็น ‘ตัวร้าย’ ของเรื่องไปโดยสมบูรณ์แล้ว
จากเด็กหนุ่มผู้โหยหา ‘อิสรภาพ’ และพร้อมจะยอมแลกทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง สู่บุรุษผู้พร้อมจะเผาผลาญทุกสรรพสิ่งเพื่อทำ ‘เป้าหมายใหม่’ ของตัวเองให้สำเร็จ
พัฒนาการของตัวละครหลักที่ ‘สุดโต่ง’ เหล่านี้จึงทำให้เอเรนมีมิติของตัวละครที่น่าสนใจ และชวนให้ผู้อ่านร่วมติดตามกันต่อไปว่าบทสรุปของตัวละครตัวนี้จะจบลงอย่างไร
และเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ส่งให้ Attack on Titan กลายเป็นมังงะที่ครองใจผู้อ่านทั่วโลกอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งเรื่องราวระหว่างทางที่ก่อร่างให้ ‘ตัวเอก’ ของเรื่องค่อยๆ กลายเป็น ‘ตัวร้าย’ ยังทำหน้าที่สะท้อนปัญหาของ ‘ระบบ’ บางอย่างในโลกความเป็นจริงให้ผู้อ่านได้เห็นอย่างแจ่มชัดอีกด้วย
ภาพประกอบ: https://attackontitan.fandom.com/wiki/Eren_Jaeger_(Anime)/Image_Gallery
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ