วันนี้ (18 พฤษภาคม) นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สงขลา โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ลงนามในคำสั่ง สธ. เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง จากกรณีพบมีมูลควรกล่าวหาปมจัดซื้อชุดตรวจ ATK ไม่เกิน 2 ล้านบาท 5 ครั้งเป็นการแบ่งซื้อเวชภัณฑ์ ซึ่งฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงการคลัง ขัดหลักเกณฑ์จัดซื้อจัดจ้าง แก้ไขสัญญาก่อสร้างอาคารบริการ 8 ชั้น ทำราชการเสียหาย ว่า ‘ความยุติธรรมและปราศจากอคติ’
นพ.สุภัทรระบุถึงสาระของการสอบวินัยว่า ตนเองจัดซื้อชุดตรวจ ATK ผิดระเบียบพัสดุ การแก้ไขสัญญาสร้างตึกอาคารบริการผู้ป่วย 8 ชั้นที่แสวงหาประโยชน์และทำให้ราชการเสียหาย รวมทั้งการสั่งซื้อลิฟต์ทั้งที่อาคาร 8 ชั้นยังสร้างไม่เสร็จนั้น ตนจะไปชี้แจงในคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ตอบตรงไปตรงมาพร้อมหลักฐาน ราชการต้องตอบสนองผลลัพธ์และประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่จ้องใช้ระเบียบหยุมหยิมในการจับผิด
นพ.สุภัทรมองว่าปรากฏการณ์นี้คือการกลั่นแกล้งข้าราชการประจำ และจงใจจะเอาให้ออกจากราชการ เพราะเคยสั่งสอบวินัยไม่ร้ายแรงร่วมสิบเรื่องแล้ว เพจชมรมแพทย์ชนบทก็ยังไม่หยุด สั่งย้ายแล้ว การเคลื่อนไหวของชมรมแพทย์ชนบทก็ยังไม่หยุด ความแค้นจึงสุมอก สั่งให้ลงมือให้หนัก คนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกล ทุกท่านรู้ดี
ทั้งนี้ ตามกติกา รัฐมนตรีไม่สามารถทำอะไรตรงกับข้าราชการระดับกลาง-ระดับล่างได้ ต้องมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้สนอง เห็นชอบ และสั่งการ ปลัดไม่สั่ง มีหรือรองปลัด/ผู้ตรวจฯ จะกล้าลงมือ เมื่อเรามีปลัดกระทรวงที่ไร้ซึ่งความเป็นผู้นำ ความอยุติธรรมและไร้ธรรมาภิบาลจึงเกิดต่อเนื่อง
ว่าด้วยกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 การดำเนินการกรณีกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ‘ต้องยุติธรรม และปราศจากอคติ’ ตนมั่นใจว่าคำสั่งสอบวินัยร้ายแรงครั้งนี้ ‘ไม่เป็นธรรม และเต็มไปด้วยอคติ’
นพ.สุภัทรระบุว่า คำสั่งสอบวินัยฉบับร่างหลุดไปยังเพจภูมิใจไทย โดยที่ตนก็ยังไม่ได้เห็นเอกสาร นี่คือความจงใจสร้างกระแสใส่ความตน เป็นการจงใจหมิ่นประมาท ซึ่ง โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ควรตั้งกรรมการสอบสวนด้วยว่าเอกสารลับนี้หลุดไปได้อย่างไร
“คำสั่งรีบลงนามมาก กลัวว่าหากผลเลือกตั้งและฟอร์มรัฐบาลออกมาแล้วจะไม่ได้สอบผมกระมัง จึงรีบชิงลงมือก่อน และที่สำคัญรัฐมนตรีอนุทินอดไม่ได้ที่จะส่งข่าวการตั้งกรรมการสอบวินัยในกลุ่มไลน์ก่อนใคร รู้เรื่องก่อนผมอีก อะไรจะรักและเป็นห่วงผมขนาดนั้น
“ผมพร้อมครับ สำหรับกระบวนการสอบสวนที่เป็นธรรม ส่วนความไร้ธรรมาภิบาลใดๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ผมและแพทย์ชนบททุกรุ่นพร้อมจะร่วมมืออย่างเต็มที่กับรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกล-เพื่อไทยเป็นแกนนำ เพื่อฟื้นฟูกระทรวงสาธารณสุขให้กลับมาเป็นบ้านที่มีความเป็นธรรม อบอุ่น และมีประสิทธิภาพในการดูแลประชาชนทุกคนได้อย่างเต็มกำลัง โปรดติดตาม” นพ.สุภัทรระบุทิ้งท้าย