วันนี้ (2 มิถุนายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ประกาศพร้อมทยอยส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในประเทศไทยให้กับรัฐบาลใช้ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรกได้สำเร็จตามแผน โดยพิธีส่งมอบได้รับเกียรติจาก พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานกรรมการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด และ เจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด
ทีกเปิดเผยว่า ในสถานการณ์ที่ทุกคนกำลังต่อสู้กับวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เหตุการณ์ในวันนี้มีความสำคัญและมีความหมายต่อพวกเราเป็นอย่างยิ่ง การที่ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่มีมาตรฐานด้านคุณภาพได้ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนนั้นถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นจากการมีพันธมิตรด้านการผลิตที่ยอดเยี่ยมอย่างสยามไบโอไซเอนซ์ ตนขอขอบคุณสยามไบโอไซเอนซ์ที่ร่วมกันผลิตและส่งมอบวัคซีนได้ตามแผนที่กำหนดไว้
“ในขณะนี้เมื่อเรามีวัคซีนคุณภาพสูงที่ผลิตในประเทศไทยพร้อมส่งมอบแล้ว ก็จะสามารถสนับสนุนรัฐบาลให้ดำเนินการเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิผลให้กับประชาชนได้โดยเร็วที่สุด” ทีกกล่าว
ด้าน นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า สยามไบโอไซเอนซ์ในฐานะผู้รับจ้างผลิต ตระหนักดีถึงหน้าที่สำคัญในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากลให้สำเร็จโดยรวดเร็วที่สุด และรู้สึกภาคภูมิใจที่บริษัทของคนไทยได้รับเลือกจาก AstraZeneca ให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 และสามารถส่งมอบวัคซีนล็อตแรกให้กับ AstraZeneca ได้ตามกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญาระหว่างสยามไบโอไซเอนซ์และ AstraZeneca เพื่อจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาพของคนในชาติ รวมถึงประชาชนและเศรษฐกิจไทยจะได้กลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
วัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับการอนุมัติให้เริ่มจัดส่งภายในสัปดาห์นี้ โดยผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศ รวมถึงผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ของ AstraZeneca ในต่างประเทศ นับเป็นการยืนยันคุณภาพของวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในประเทศไทย ว่ามีมาตรฐานในระดับสากล ทั้งนี้ วัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca ในแต่ละรุ่นการผลิตต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพต่างๆ รวมกันมากกว่า 60 รายการ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล เพราะ AstraZeneca ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
ผลการทดลองทางคลินิกยืนยันว่า ผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca สามารถทนต่อผลข้างเคียงของวัคซีนได้ดี และวัคซีนยังช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในทุกระดับความรุนแรง นอกจากนี้จากข้อมูลการใช้วัคซีนในประชากรหลายสิบล้านคนทั่วโลกยังแสดงให้เห็นว่า วัคซีนของ AstraZeneca มีประสิทธิผลลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้มากถึง 80% หลังการฉีดเข็มแรก
“AstraZeneca มีเครือข่ายการผลิตวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก ประกอบด้วยศูนย์การผลิตเฉพาะ 16 แห่ง และพันธมิตรผู้ผลิตวัคซีนอีก 25 แห่งในกว่า 15 ประเทศ สยามไบโอไซเอนซ์เป็นศูนย์การผลิตวัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca แห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยผลักดันยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุขของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค ที่ผ่านมา AstraZeneca ได้ร่วมกับสยามไบโอไซเอนซ์ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการผลิตวัคซีนและสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดย AstraZeneca จะทยอยส่งออกวัคซีนโควิด-19 ไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนกรกฎาคม ณ ขณะนี้ AstraZeneca ได้จัดส่งวัคซีนมากกว่า 500 ล้านโดส ให้แก่ 168 ประเทศทั่วโลก” นวลพรรณระบุ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของจำนวนวัคซีนล็อตแรก โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบวัคซีนล็อตแรกที่จะเริ่มฉีดในประเทศไทยวันที่ 7 มิถุนายนนี้ จำนวน 1.8 ล้านโดส ส่วนแผนการกระจายวัคซีน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะแถลงชี้แจงรายละเอียดที่กระทรวงสาธารณสุข