เมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม) จากการติดตามสถานการณ์การชุมนุมวันที่ 7 สิงหาคม 2564 หรือ #ม็อบ7สิงหา ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ณ เวลา 18.00 น. พบว่ามีผู้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปแล้วไม่น้อยกว่า 14 ราย ได้แก่
- ผู้ถูกควบคุมตัวไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีจำนวน 10 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวในช่วงสายก่อนการชุมนุม และบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
- ผู้ถูกควบคุมตัวจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและถนนราชดำเนินในช่วงบ่ายระหว่างเริ่มการชุมนุมอย่างน้อย 2 ราย
- แซม ซาแมท หรือ ‘อาร์ท’ ชายไร้สัญชาติที่เคยถูกดำเนินคดีจาก #ม็อบ28กุมภา มีรายงานว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าติดตามและแสดงหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อจับกุมตัวบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่เขาถูกออกหมายจับ และข้อกล่าวหา
- เวลาประมาณ 16.25 น. บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มีรายงานภาพชายสวมเสื้อสีม่วงถูกควบคุมตัว โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนยังไม่ทราบว่าชายเสื้อสีม่วงถูกนำตัวและถูกควบคุมตัวไปที่ใด
ขณะที่เวลา 20.40 น. พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุม #7สิงหา
พล.ต.ต. ยิ่งยศ กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีการประกาศรวมตัวและเคลื่อนไปยังสถานที่สำคัญ มีการเผาทำลายสถานที่ทรัพย์สินของราชการเสียหาย ใช้อาวุธและสิ่งเทียมอาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ควบคุมฝุงชน (คฝ.) หลังประกาศยุติการชุมนุมยังมีการเคลื่อนไปต่อเนื่องเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และความผิดตามกฎหมายอื่นๆ อีกหลายส่วน
ด้าน พล.ต.ต. ปิยะ ลำดับเหตุการณ์ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมนัดหมายบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยตำรวจท้องที่ได้ประกาศให้ยุติการชุมนุม เนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดห้ามรวมตัวทำกิจกรรม แต่มวลชนยังไม่เชื่อฟังและเชิญชวนไปชุมนุมต่อที่ทำเนียบรัฐบาล พยายามฝ่าแนวกั้นเจ้าหน้าที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าและเดินทางไปแยกนางเลิ้ง-เข้าถนนพิษณุโลก โดยรื้อสิ่งกีดขวางบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ แต่ฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ไม่ได้ จึงประกาศรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนไปที่ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อชุมนุมบริเวณกรมทหารราบที่ 1
โดยตำรวจได้ตั้งแนวไว้บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง จุดนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้หัวน็อต ลูกแก้ว พลุเพลิง ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ได้มีการประกาศยุติการชุมนุม แต่บางส่วนยังอยู่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ โดยยืนยันการดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามหลักสากลและปฏิบัติตามยุทธวิธีตำรวจทุกประการ พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ปิดกั้นเส้นทางที่ส่งผลต่อการลำเลียงผู้ป่วยไปโรงพยาบาลแต่อย่างใด
พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีรวมทั้งหมด 12 คน ประกอบด้วย กลุ่มแรกจำนวน 2 คน ยึดคีมตัดลวด, วิทยุสื่อสาร, เกราะอ่อน, หน้ากากกันแก๊สน้ำรถยนต์ ในห้องพักโรงแรมย่านถนนข้าวสาร กลุ่มที่สอง จำนวน 6 คน ตรวจค้นพบพลุไฟ 5 อัน, หนังสติก, หัวน็อต, วิทยุสื่อสาร, เกราะอ่อน, รถยนต์ 2 คัน ภายในวัดมหรรณพาราม เบื้องต้นดำเนินคดีทั้ง 2 กลุ่ม ข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร พร้อมส่งพลุเพลิงที่ยึดได้ตรวจพิสูจน์หากเป็นวัตถุระเบิดก็จะมีการตั้งข้อหาอีกส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ช่วงบ่ายจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ และวางเพลิงเผาทรัพย์ อีก 4 คน ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดทุกข้อหา
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ถูกยิงด้วยหนังสติกหัวน็อตฝังบริเวณลำคอ กำลังผ่าตัดที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนความเสียหายมีการเผารถคุมผู้ต้องหา 1 คัน ราคา 7-8 แสนบาท, ทุบทำลายป้อมยามตำรวจ และความเสียหายอื่นๆ ต้องทำการสำรวจอีกครั้ง