วันนี้ (23 สิงหาคม) ตั้งแต่ 17.30 น. ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง ‘กลุ่มทะลุแก๊ซ’ ทยอยเดินทางมารวมตัวชุมนุม เพื่อจะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต โดยปรับรูปแบบการชุมนุมในวันนี้ ใช้วิธีการดาวกระจายเป็น 3 จุด เพื่อความปลอดภัยในการป้องกันการถูกจับกุม และประชาสัมพันธ์ให้ปะทะน้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัย
- จุดที่ 1 บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง
- จุดที่ 2 บริเวณถนนมิตรไมตรี ซอย 2
- จุดที่ 3 บริเวณสวนป่าวิภาวดี ทางเข้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2
ขณะที่วันนี้เป็นครั้งแรกที่กลุ่มผู้ชุมนุมทะลุแก๊ซ ได้มีธงนำขบวนสีขาว และมีข้อความเขียนชื่อกลุ่มในการนำขบวนรถจักรยานยนต์ จากนั้นเกิดเสียงประทัดดังขึ้น 2-3 ครั้ง ต่อมาพบว่ามีเยาวชนอายุ 15 ปี ถูกกระสุนยางยิงเข้าบริเวณส่วนศีรษะและมีบาดแผลเลือดไหล ซึ่งทีมแพทย์อาสาประจำพื้นที่การชุมนุมช่วยปฐมพยาบาล
เวลา 18.10 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มปาวัตถุเสียงดังคล้ายประทัดเข้าไปในพื้นที่กรมดุริยางค์ทหารบก โดยเจ้าหน้าที่มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้ทั้งหมดยุติการกระทำดังกล่าว และยังคงมีการขับรถจักรยานยนต์วนดูในพื้นที่ไปรอบๆ จนกระทั่งกลับมารวมตัวที่แยกดินแดง และปาวัตถุเสียงดังคล้ายประทัดไปบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศย้ายไปรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยระบุเหตุผลว่า เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดประตูเข้าจับกุมเหมือนเมื่อวานนี้
เวลา 19.10 น. หลังจากผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยมารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ก็ไม่ได้มีกิจกรรมใดๆ เกิดขึ้น จากนั้นเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ‘เยาวรุ่นทะลุแก๊ส’ ประกาศยุติการชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยแยกย้ายเดินทางกลับ แต่ผู้ชุมนุมบางส่วน กลับไปรวมตัวที่แยกดินแดงอีกครั้ง และมีการโยนประทัดยักษ์ และปาระเบิดปิงปองเป็นระยะ พร้อมทั้งจุดไฟเผาวัตถุบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง
จนกระทั่งเวลา 21.20 น. หลังเวลาเคอร์ฟิว เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ชุดเคลื่อนที่เร็วได้เข้าควบคุมพื้นที่ และเข้าตรวจสอบผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบผู้ชุมนุมต่างวิ่งหนี และเข้าตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง
ทั้งนี้การนัดหมายการชุมนุมดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 วัน ที่มีการชุมนุมบริเวณแยกดินแดงแล้วไม่มีการเผชิญหน้าอย่างหนักเกิดขึ้น มีเพียงการใช้ยุทธวิธีหลังช่วงเวลาเคอร์ฟิวในการเข้าจับกุมเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวว่า การดำเนินคดีเกี่ยวกับผู้ชุมนุมในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินคดีทั้งสิ้น 110 คดี มีผู้ต้องหา 588 คน จับกุมตัวแล้ว 287 คน
สำหรับการดำเนินคดีในช่วงนี้พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกกลุ่มผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการชุมนุมรวมทั้งสิ้น 127 หมาย แบ่งเป็นกลุ่มแกนนำ 16 หมาย และผู้ชุมนุมอื่นๆ 111 หมาย เพื่อมาให้ถ้อยคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป