วันนี้ (19 สิงหาคม) กลุ่มทะลุฟ้าจัดกิจกรรม #ม็อบ19สิงหา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งนับเป็นวันที่สองที่จัดขึ้นในบริเวณนี้ หลังก่อนหน้านี้จัดกิจกรรมชุมนุมอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันมาแล้ว
สำหรับบรรยากาศกิจกรรมวันนี้จะคล้ายกับเมื่อวานนี้ (18 สิงหาคม) ที่จะมีการปราศรัยถึงการบริหารราชการของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บริหารสถานการณ์โควิดจนล้มเหลว และการบริหารจัดการวัคซีนที่ไม่เหมาะสมจนทำให้ประชาชนติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก โดยเริ่มปราศัยตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น.
ต่อมาเวลา 18.30 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) และรถนำ้แรงดันสูงหรือจีโน่ ได้มาประจำการบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณหน้าร้านอาหารเมธาวลัย ศรแดง ซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามกับที่ผู้ชุมนุมได้จัดการชุมนุมอยู่ แต่เป็นเพียงการประจำการเพื่อรอดูสถานการณ์เท่านั้น โดย พล.ต.ต. อรรถวิทย์ สายสืบ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ระบุว่า การชุมนุมถึงเวลายุติต้องยุติอย่างสงบ ไม่ให้มีการเผา ซึ่งดูจากการวางกองฟาง หากเผาจะกลายเป็นการวางเพลิง ซึ่งเมื่อวานนี้ที่มีการเผาก็มีการอนุโลมไปครั้งหนึ่งแล้ว
ต่อมา พล.ต.ต. อรรถวิทย์ได้มีการเข้ามาพูดคุยกับแกนนำกลุ่มทะลุฟ้า โดยทำการตกลงให้ผู้ชุมนุมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการเผาฟางได้ แต่จะต้องยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเข้ามาใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงทันที ซึ่งทางแกนนำกลุ่มทะลุฟ้าได้ยอมรับเงื่อนไขโดยต้องให้ตำรวจควบคุมฝูงชนถอนกำลังออกไป
ที่สุดแล้วในช่วงก่อนยุติกิจกรรมในเวลา 19.10 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการเผาฟางที่วางรูปภาพของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี, ส.ส. และ 250 ส.ว. เป็นสัญลักษณ์ รวมถึงวันนี้มีการนำผ้าดำไปคลุมที่พานแว่นฟ้าบนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อสะท้อนถึงความมืดในของประชาธิปไตยในประเทศไทย จากนั้นหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจนครบาล (สน.) สำราญราษฎร์ จำนวน 2 ชุด ชุดละ 4 นาย ได้ถือถังดับเพลิงเข้าทำการดับไฟทันที