×

บช.น. เผยจับกุมแล้ว 2 ราย กรณีเผารถควบคุมผู้ต้องหาที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ขอโทษชาวแฟลตดินแดงได้รับผลกระทบจากสลายชุมนุม

โดย THE STANDARD TEAM
12.08.2021
  • LOADING...

วันนี้ (12 สิงหาคม) พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.), พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร่วมแถลงข่าวสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ทางการเมือง

 

จากการเผชิญหน้าของตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้มีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในกองร้อยควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บ 11 นาย โดยได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดของพลุ ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง ลูกแก้ว ลูกหิน นอกจากนี้ รถยนต์ของทางราชการถูกเผาทำลายทั้งหมด 8 คัน และป้อมสัญญาจราจรถูกเผาและทุบทำลายทั้งหมด 12 แห่ง 

 

พล.ต.ท. ภัคพงศ์ ระบุว่า เหตุการณ์เผาและทุบทำลายสถานที่ราชการ รวมถึงยานพาหนะ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำ การกระทำดังกล่าวจะทำให้สูญเสียงบประมาณไปโดยใช่เหตุ ส่วนเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวานนี้ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 17 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 2 คน โดยทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และข้อหาเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการชุมนุมแล้วไม่เลิก 

 

ส่วนกรณีเหตุการณ์เผาทำลายรถควบคุมผู้ต้องขังบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ศาลอาญาได้ออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย อาทิตย์ สากลวารี อายุ 20 ปี และ น้ำเชี่ยว เนียมจันทร์ อายุ 20 ปี โดยอาทิตย์ให้การภาคเสธ อ้างว่ามีการขว้างระเบิดปิงปองใส่รถควบคุมผู้ต้องหาจริง แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้ ส่วนน้ำเชี่ยวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

 

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติของน้ำเชี่ยว พบว่าเคยก่อคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งทั้งสองคนถูกดำเนินคดีในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปจนเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. ควบคุมโรค นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา พบระเบิดไทยประดิษฐ์ พลุเพลิง และเสื้อผ้าของผู้ต้องหาที่ใช้ในวันก่อเหตุ

 

พล.ต.ท. ภัคพงศ์ ยังกล่าวขอโทษประชาชนชาวแฟลตดินแดงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมและการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตลอดสองวันที่ผ่านมาว่า ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา หากการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในละแวกดังกล่าวที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม ตนเองขออภัย ยืนยันการทำงานของตำรวจกระทำไปเพื่อต้องการควบคุมสถานการณ์และแก้ไขปัญหาเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

 

ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ ยืนยันว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นการทำงานบนพื้นฐานของข้อกฎหมาย ใช้อำนาจตามความจำเป็น  ซึ่งตำรวจมีการเรียนรู้ถอดบทเรียน และมีการดำเนินการปรับแผน ระมัดระวังในการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว

 

ขณะที่ พล.ต.ต. ปิยะ ได้ฝากย้ำเตือนถึงผู้ที่เผยแพร่ข้อความภาพคลิปวิดีโอที่ผู้ชุมนุมคนหนึ่งถูกประทัดยักษ์ระเบิดใส่มือขณะที่กำลังจะปาใส่เจ้าหน้าที่จนทำให้นิ้วมือขาด ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ตำรวจขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บรับวัตถุระเบิดมาจากชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชุมนุมด้วยกัน ไม่ได้เป็นตำรวจตามที่มีการกล่าวอ้างกันในโลกโซเชียล และขอให้ผู้ที่เผยแพร่ภาพหยุดการเผยแพร่ภาพดังกล่าว เนื่องจากเป็นลักษณะเฟกนิวส์ และมีโทษตามกฎหมาย

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X