วันนี้ (6 กันยายน) ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง เริ่มมีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ทยอยมารวมตัวตามกำหนดนัดหมายของ ‘กลุ่มทะลุแก๊ซ’ ที่มีการโพสต์ประกาศนัดระดมพลกันที่บริเวณดังกล่าว
หลังเริ่มรวมตัวกันมากขึ้น จึงมีการเคลื่อนตัวมายังบริเวณด้านหน้ากรมดุริยางค์ทหารบก ริมถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ก่อนที่บางส่วนจะเริ่มปาประทัด ขณะที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้ยิงแก๊สน้ำตาออกมาตอบโต้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้แตกกระจายออกมา
เวลา 19.00 น. คฝ. ประกาศแจ้งเตือนให้ยุติการกระทำ เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค
เวลา 19.14 น. ชุดเคลื่อนที่เร็ว คฝ. ได้เข้าปิดหัวปิดท้าย ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ใกล้กับกรมดุริยางค์ทหารบก จากนั้นวิ่งไล่จับและยิงกระสุนยางใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่พยายามขับรถหนี จนรถจักรยานยนต์ล้มหลายคัน พร้อมเข้าจับกุมผู้ชุมนุมและยึดรถจักรยานยนต์
เวลา 19.40 น. คฝ. ได้มีการยิงแก๊สน้ำตามายังบริเวณอุโมงค์ทางรอดสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมและผู้สื่อข่าวแตกกระจาย ผู้ชุมนุมที่เป็นวัยรุ่นชายรายหนึ่งเกิดอาการหายใจไม่ออกแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพจึงได้ช่วยปฐมพยาบาล
สถานการณ์บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ยังคงมีผู้ชุมนุมปักหลัก จนกระทั่งเลยช่วงเวลาเคอร์ฟิว มีการนำยางรถยนต์มาเผา ขณะที่การจราจรบางช่วงมีรถผ่านเข้ามา แต่ต้องเลี้ยวกลับออกไปอีกทาง
ต่อมา พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และ โฆษก บช.น. แถลงว่ามีการบังคับใช้กฎหมาย สั่งชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าจับกุม ได้ผู้ต้องหา 18 ราย และยึดรถจักรยานยนต์ 31 คัน แจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อนไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ, โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ยึดรถจักรยานยนต์ไปแล้วจำนวน 170 คัน