บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 กันยายน) ดัชนีเปิดการซื้อขายในแดนบวก จากนั้นปรับตัวลดลงจนแตะระดับต่ำสุดของการซื้อขายช่วงเช้าที่ระดับ 1,627.29 จุด ลดลงราว 7 จุด เมื่อเทียบกับช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยปัจจัยการเมืองในประเทศยังกดดันหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
และ ณ เวลา 12.05 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,633.20 จุด ลดลง 2.15 จุด หรือ 0.13%
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ปัจจัยด้านการเมืองภายในประเทศเริ่มเห็นความชัดเจนในการเปลี่ยนแปลง จะกดดัน SET Index ในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงกดดันความเคลื่อนไหวของเงินลงทุนต่างชาติ
โดย 3 เหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2564 จนถึงช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดังนี้
- ผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กันยายน แม้สภาลงมติไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีอีก 5 ท่าน แต่พบว่านายกฯ และรัฐมนตรี ได้รับคะแนนไว้วางใจลดลงอย่างชัดเจนต่อเนื่องเมื่อเทียบกับในอดีต
- ปลายสัปดาห์ที่แล้วมีการประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง 2 ท่าน คือ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน สะท้อนถึงรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและในพรรคพลังประชารัฐที่เพิ่มขึ้น
- การประชุมรัฐสภาได้ข้อสรุปมีมติผ่านการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของระบบ ‘การเลือกตั้ง’ โดยกลับมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ วาระที่ 3 กำหนดการขั้นตอนถัดไป ต้องรอไว้ 15 วัน และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศผลบังคับใช้ในช่วงเดือนตุลาคม 2564
โดยรวมการเมืองในสภาทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าว ฝ่ายวิจัยประเมินว่าต้องติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิดมากขึ้น อาจจะเห็นพัฒนาการที่ตามมา อาทิ การปรับ ครม. หรือการยุบสภา
ขณะเดียวกัน ปัจจัยการเมืองนอกสภาก็ยังคงต้องติดตามการชุมนุมทางการเมืองในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่เริ่มคุกรุ่น และเริ่มเห็นความยืดเยื้อหรือมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index และทิศทาง Fund Flow ในช่วงที่เหลือของปี 2564