ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 มีนาคม) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับการเคลื่อนไหวของตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,570.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.58 จุด หรือ 0.42% มูลค่าการซื้อขายรวม 85,436 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปิดตลาดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่
โดยตลาดที่ปรับลดลงค่อนข้างมากในวันนี้คือตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งดัชนี Nikkei ปิดลดลง 2.04% ตามมาด้วยตลาดหุ้นฮ่องกง โดยดัชนี Hang Seng ปิดลดลง 2.03% ส่วนตลาดหุ้นจีน ดัชนี Shanghai Composite ปิดตลาดลดลง 1.30% ขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนี Composite ปิดลดลง 0.28%
การลดลงของดัชนีหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นและฮ่องกง เป็นผลจากความกังวลที่มีต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากพบการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในภูมิภาคยุโรป ทำให้หลายประเทศเริ่มประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง
ขณะที่การลดลงของดัชนี Hang Seng ตลาดหุ้นฮ่องกง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนักลงทุนกังวลกับข่าวการระงับฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท BioNTech เป็นการชั่วคราว หลังพบจุดบกพร่องบนบรรจุภัณฑ์ นำไปสู่ความกังวลว่าจะส่งผลต่อความล่าช้าในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฮ่องกง
กสิณ สุธรรมมนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด กล่าวว่าในช่วงนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งเอเชียอาจจะเป็นภาวะ Risk Off เนื่องจากนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุน หลังจากสินทรัพย์เสี่ยงต้องเผชิญกับปัจจัยเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งกดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียอาจจะได้รับผลกระทบค่อนข้างแรงจากการโยกเงินลงทุนของนักลงทุนแถบยุโรปและอเมริกา
ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นในระยะสั้นเท่านั้น
มุมมองด้านการลงทุนของฟินโนมีนายังเชื่อมั่นในธีมระยะยาว 2 ธีมหลักคือ หนึ่ง ธีมเทคโนโลยีที่เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก และสอง ธีมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทั้งภาคการผลิตและการบริโภค
“เรายังเชื่อมั่นในธีมการลงทุนหลัก ซึ่งมองเทรนด์นี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว และเห็นได้ชัดเจนว่าเทรนด์นี้สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทั้งการผลิตที่ส่งออกไปทั่วโลก การพัฒนาเทคโนโลยีภายใน และกำลังซื้อที่ฟื้นตัวทั่วโลก ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อน GDP โลกอย่างมีนัยสำคัญ”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์