ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวเมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) หลังมีสัญญาณบวกจากธนาคารกลางจีนที่พยายามควบคุมสกุลเงินหยวนให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งคลายความกังวลของนักลงทุนว่าจีนอาจใช้เงินหยวนเป็นอาวุธในสงครามการค้า จนบานปลายกลายเป็นสงครามค่าเงินระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางจีนได้กำหนดค่ากลาง หรืออัตราอ้างอิงเงินหยวนรายวันในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นที่ระดับ 6.9683 เมื่อวานนี้ หนึ่งวันหลังปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงหลุดกรอบ 7 หยวนต่อ 1 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งทำให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการระบุจีนเป็นประเทศปั่นค่าเงิน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones ทะยานขึ้น 311.78 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 26,029.52 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 37.03 จุด หรือ 1.30% ปิดที่ 2,881.77 จุด ขณะที่ Nasdaq พุ่งขึ้น 107.23 หรือ 1.39% ปิดที่ 7,833.27 จุด
ดัชนี SET ตลาดหุ้นไทย ปิดที่ระดับ 1,671.48 เพิ่มขึ้น 5.49 จุด หรือ 0.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7 หมื่นล้านบาท โดยปัจจัยลบได้กดดันให้ SET เปิดตลาดในแดนลบ ก่อนจะรีบาวด์สู่แดนบวกได้สำเร็จ หลังมีเซนทิเมนต์บวกจากธนาคารกลางจีนที่เตรียมตรึงค่าเงินหยวนเพื่อรักษาเสถียรภาพการเงินโลก
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียปิดลบสวนทางตลาดสหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนี Hang Seng ตลาดหุ้นฮ่องกงขยับลง 0.7%, ดัชนี Nikkei ตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 0.7%, ดัชนี Shanghai Composite ตลาดหุ้นจีนร่วงลง 1.6% และดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 1.5% ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะปิดในแดนลบ แต่ก็ฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากที่ร่วงลงกว่า 2% ในวันก่อนหน้า จากแรงกดดันของปัจจัยลบต่างๆ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
