ทัพเซปักตะกร้อไทยเก็บเพิ่มอีก 2 เหรียญทองตามความคาดหมาย ทั้งในประเภททีมเดี่ยวชายและทีมเดี่ยวหญิง ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (7 ตุลาคม)
การแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อประเภททีมเดี่ยวรอบรองชนะเลิศ กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จินหัว สปอร์ต เซ็นเตอร์ ยิมเนเซียม ที่เมืองจินหัว ประเทศจีน ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแข่งขันกันทั้งทีมเดี่ยวชายและทีมเดี่ยวหญิง
เริ่มกันที่ทีมเดี่ยวชาย ทีมชาติไทยพบกับมาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาลในรอบชิงชนะเลิศ โดยไทยส่ง สิทธิพงศ์ คำจันทร์, ภัทรพงษ์ ยุพดี และ พิเชษฐ์ พันแสน ลงเป็น 3 ตัวจริง โดยมี ศิริวัฒน์ สาขา และ วรายุทธ์ จันทรเสนา เป็นตัวสำรอง
เซ็ตแรกไทยเอาชนะไปก่อน 21-15 ก่อนที่เซ็ตที่ 2 ในช่วงท้ายเซ็ตจะมีประเด็นดราม่า เมื่อสิทธิพงศ์กระโดดฟาดทำคะแนน แต่ทางมาเลเซียประท้วงว่าลูกออก ทว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ชาเลนจ์เหลือแล้วจึงดูภาพช้าไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ไทยเอาชนะไป 2 เซ็ตรวด สกอร์ 21-15 และ 21-19
นี่เป็นเหรียญทองที่ 3 ของทัพเซปักตะกร้อไทยในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ และเป็นแชมป์สมัยที่ 6 ของตะกร้อทีมเดี่ยวชาย หลังจากที่คราวก่อนไม่ได้ส่งแข่งขัน และยังเป็นเหรียญทองที่ 11 ของทัพนักกีฬาไทยด้วย
หลังจากนั้นไม่นานก็เป็นการแข่งขันประเภททีมเดี่ยวหญิง โดยไทยพบกับเวียดนาม คู่ปรับในเซปักตะกร้อประเภทหญิงทุกรายการ
เกมนี้ทีมไทยส่ง วิภาดา จิตพรวน, ศิรินันท์ เขียวปัก และ สมฤดี ปรือปรัก ลงสนาม โดยมี ปริมประภา แก้วคำไสย์ สลับลงเสิร์ฟ กับ รัศมี ทองโสด สลับลงเล่น
เซ็ตแรกทีมเซปักตะกร้อสาวไทยชนะเวียดนามตามคาด 21-15 ก่อนที่ในเซ็ตที่ 2 จะเอาชนะไปอีก 21-12 ทำให้ไทยเอาชนะไป 2 เซ็ตรวด คว้าเหรียญทองมาครองเพิ่มได้อีก 1 เหรียญทอง เป็นเหรียญที่ 12 ในศึกเอเชียนเกมส์ครั้งนี้
ขณะที่ทัพเซปักตะกร้อไทยทำผลงานในศึกเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังคว้า 4 เหรียญทองจาก 4 ประเภทที่ส่งเข้าแข่งขัน ทั้งประเภททีมชาย, ทีมหญิง, ทีมเดี่ยวชาย และทีมเดี่ยวหญิง