วันนี้ (21 ตุลาคม) ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้นำที่ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนและคณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC) มีความห่วงใยสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยในที่ประชุมสุดยอด ASEAN-GCC ได้ออกแถลงการณ์ ดังนี้
แถลงการณ์อาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับต่อพัฒนาการในฉนวนกาซา ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ผู้นำได้แลกเปลี่ยนทัศนะและแสดงความห่วงกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อพัฒนาการในตะวันออกกลางและเห็นพ้องดังต่อไปนี้
- ประณามการโจมตีพลเรือนทุกกรณี และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงที่ยั่งยืน รวมทั้งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเปิดทางให้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เสบียงบรรเทาทุกข์ และปัจจัยพื้นฐาน ตลอดจนการบริการที่จำเป็นอื่นๆ อย่างเช่น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด รวมทั้งการเชื่อมต่อไฟฟ้า น้ำ และให้สามารถลำเลียงเชื้อเพลิง อาหาร และยารักษาโรค ทั่วพื้นที่ในฉนวนกาซาโดยไม่มีอุปสรรค
- เรียกร้องทุกฝ่ายในความขัดแย้งให้การคุ้มครองต่อพลเรือน ละเว้นจากการมุ่งเป้าต่อคนเหล่านี้ และปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะหลักการและข้อกำหนดในอนุสัญญาเจนีวาเกี่ยวกับการคุ้มครองพลเรือนในเวลาสงคราม เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1949
- เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวตัวประกันพลเรือนและผู้ถูกจับกุมในทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะสตรี เด็ก ผู้ป่วย และผู้สูงวัย
- เร่งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปสู่การแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติ เพื่อบรรลุแนวทางแก้ไขสองรัฐ บนพื้นฐานของเขตแดนก่อน ค.ศ. 1967 ที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
- สนับสนุนข้อริเริ่มของซาอุดีอาระเบีย สหภาพยุโรป และสันนิบาตรัฐอาหรับ โดยร่วมมือกับอียิปต์และจอร์แดนในการฟื้นกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง และแก้ไขข้อพิพาทระหว่างอิสราเอลกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและข้อมติของสหประชาชาติทุกข้อที่เกี่ยวกับความขัดแย้งนี้