รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562-2570) ซึ่งมีวิสัยทัศน์ ‘ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารแห่งอนาคตแห่งอาเซียนควบคู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก’ สินค้าเป้าหมาย เช่น ข้าวและธัญพืช ปศุสัตว์ ประมง ผักและผลไม้ เกษตรอินทรีย์ และยังมีกลุ่มสินค้าที่จะทำตลาดได้ดีในอนาคต เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารจากเทคโนโลยีชีวภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ และกลุ่มธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
สำหรับมาตรการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วย การสร้างอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการอาหารรุ่นใหม่ให้มีนวัตกรรมอาหาร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างงาน สร้างรายได้ การสร้างนวัตกรรมอาหารอนาคตสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ การสร้างโอกาสทางธุรกิจ เป็นการเชื่อมโยงการผลิตสู่ตลาดโลกผ่านแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับผู้ผลิตทุกระดับ รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งด้วยการเชื่อมโยงวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์เข้ากับผลิตภัณฑ์อาหารและการท่องเที่ยว และการสร้างปัจจัยพื้นฐานเพื่อเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรม
เป็นการสร้างสภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม การพัฒนาเกษตรกรเข้าสู่ระบบ Smart Farming กำหนดเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอาหารสดพรีเมียม เช่น ชั้นคุณภาพเนื้อโคขุน เนื้อสัตว์และสัตว์น้ำปลอดสารปฏิชีวนะ และปลอดฮอร์โมน เป็นต้น
ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าวจะใช้งบประมาณประจำปี 2563-2566 ภายใต้งบบูรณาการและงบประมาณตามยุทธศาสตร์ของแต่ละหน่วยงาน จำนวน 6,671 ล้านบาท และการสนับสนุนจากภาคเอกชน 2,224 ล้านบาท โดยคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารแห่งชาติเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน
ซึ่งหากดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ประเทศไทยจะสามารถเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารในอาเซียนในปี 2570 และเป็น 1 ใน 10 ของประเทศผู้ส่งออกอาหารของโลก อีกทั้งในเชิงเศรษฐกิจคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศจากกลุ่มอาหารจะเติบโตขึ้นกว่า 1,400,000 ล้านบาท รายได้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มขึ้นกว่า 4,500,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ต่อปี และจะเกิดการลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ต่อปี
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์