เป้าหมายใหญ่สำหรับ อาร์เซน เวนเกอร์ หนึ่งในบุคคลที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในวงการฟุตบอล คือการปฏิรูปวงการลูกหนังครั้งใหญ่ ด้วยการยกเครื่องปฏิทินการแข่งขัน เพื่อทำให้ฟุตบอลเป็นเกมที่ดีขึ้น
อดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ซึ่งปัจจุบันรับบทบาทหัวหน้าแผนกพัฒนาฟุตบอลของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สร้างความฮือฮาในช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากที่มีการเสนอแนวคิดเปลี่ยนการแข่งขันฟุตบอลโลกจากเดิม 4 ปีครั้ง เป็น 2 ปีครั้งแทน ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก แต่สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันที่จะช่วยทำให้เกมฟุตบอลที่อัดแน่นในปัจจุบันดีขึ้น อยู่ที่การปรับตารางการแข่งขันใหม่ทั้งหมด
เรื่องนี้เวนเกอร์ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการพอดแคสต์ของ BBC The Sports Desk โดยกล่าวว่า “มันคือการเสี่ยงที่จะช่วยให้เกมฟุตบอลดีขึ้น และผมก็พร้อมที่จะเสี่ยงแล้ว” โดยหนึ่งในปราชญ์ลูกหนังของวงการยังได้บอกว่า ปฏิทินการแข่งขันในปัจจุบันไม่มีทั้งความชัดเจน ขาดความเรียบง่าย และไม่สามารถบริหารจัดการแบบสมัยใหม่ได้
“ผมคิดว่าถ้าเราไปกันต่อแบบนี้เราจะถึงทางตัน” เวนเกอร์กล่าวพร้อมกับระบุอีกว่า สิ่งที่เป็นอันตรายสำหรับนักฟตุบอลคือ การเดินทางซ้ำแล้วซ้ำเล่าและการเจ็ตแล็ก ซึ่งถ้าเราลดจำนวนช่วงแข่งรอบคัดเลือกลง ตนเชื่อว่าสโมสรก็จะได้ประโยชน์ด้วย และนักฟุตบอลก็จะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน
สำหรับเรื่องของการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกแบบใหม่ 2 ปีครั้ง ทางฟีฟ่าได้ทำผลสำรวจและพบว่า แฟนฟุตบอลส่วนใหญ่อยากเห็นการแข่งที่ถี่ขึ้นมากกว่าแค่ 4 ปีครั้ง และเมื่อถูกถามคำถามสำคัญว่า การทำเช่นนี้จะเป็นการลดคุณค่าของรายการแข่งขันหรือไม่ เวนเกอร์กล่าวว่า ฟุตบอลโลกเป็นมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่ที่ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรลดคุณค่ามันได้ ทุกคนอยากเก่งที่สุดในโลก และทุกคนก็อยากจะเก่งที่สุดในโลกทุกๆ ปี
“ผมไม่ได้ใช้อีโก้นำทาง ผมถูกขอให้ช่วยเปลี่ยนแปลงปฏิทินการแข่งขันสำหรับอนาคต และผมก็ปรึกษาคนทั่วโลกเพื่อการนี้” เวนเกอร์กล่าว
เวนเกอร์ยังกล่าวพร้อมปฏิเสธเรื่องที่ไม่มีการปรึกษาหารือกับฝ่ายใดเลย ทำให้มีการต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอย่างสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า)
“ผมมั่นใจในเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะไปเป็นคู่ปฏิปักษ์กับใคร ผมแค่เพียงยื่นข้อเสนอ เพราะผมคิดว่ามันเป็นผลดีต่อเกมฟุตบอล” เวนเกอร์กล่าวในที่สุด
สำหรับข้อเสนอของเวนเกอร์ที่จะทำให้เกมฟุตบอลเป็นเกมที่มีความหมายมากขึ้นประกอบไปด้วย
- มีการแข่งฟุตบอลโลกทุก 2 ปี
- รายการระดับทวีป (ทุกทวีปรวมถึงยูโร) จัดขึ้นในระหว่างปีที่ไม่มีฟุตบอลโลก
- อาจพักเบรกทีมชาติแค่ 1 ช่วง (เดือนตุลาคม) หรือ 2 ช่วง (เดือนตุลาคมและมีนาคม) ช่วงละ 1 เดือน โดยจะให้มีการแข่งขันรอบคัดเลือกไปแข่งทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในช่วงนั้น ขณะที่ปัจจุบันมีช่วงปฏิทินทีมชาติถึง 5 ช่วงในรอบปี
- การันตีช่วงระยะเวลาพักอย่างน้อย 25 วันสำหรับนักฟุตบอลหลังทัวร์นาเมนต์จบลง
โดยฟีฟ่าจะจัดการประชุมออนไลน์เกี่ยวกับการปรับปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลชายและหญิงในวันที่ 30 กันยายนนี้ ส่วนการลงมติเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลโลกในรูปแบบใหม่จะมีขึ้นในการประชุมใหญ่ของฟีฟ่าที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ โดยแต่ละชาติจะมีโอกาสลงคะแนนเท่ากัน
อ้างอิง: