วันนี้ (19 กรกฎาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.อ. ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และคณะ ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีเรือน้ำมันเถื่อนของกลางสูญหายจากท่าเรือของกองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดชลบุรี
พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า จากการสืบสวนพบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำเรือออกไปจากท่าเรือจำนวน 15 คน แบ่งเป็นลูกเรือ 14 คน ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีจับกุมเรือน้ำมันเถื่อนเดิม ส่วนอีก 1 คน เป็นบุคคลภายนอก ซึ่งได้ออกหมายจับไปแล้ว จากนั้นกองบังคับการตำรวจน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามจับกุมเรือที่หายไปทั้ง 3 ลำ พร้อมลูกเรือที่เกี่ยวข้องได้อีก 8 คน นำมาดำเนินคดี
จากนั้นได้ขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการหายไปของเรือทั้ง 3 ลำ โดยพบข้อมูลว่า เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สมเกียรติ หรือ เสี่ยเล็ก และ สำเริง ที่เป็นผู้ดำเนินการตามคำสั่ง โจ้ ปัตตานี หรือ โจ้ น้ำมันเถื่อน ได้ร่วมกันนัดหมายให้ไต้ก๋งเรือไปพบกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอสัตหีบ และได้นำวิทยุสื่อสาร พร้อมเครื่อง GPS สำหรับเดินเรือ 3 ชุดไปให้ เพื่อให้นำเรือน้ำมัน 3 ลำที่เป็นของโจ้หลบหนีไปจากท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบในวันที่ 11 มิถุนายน เวลา 20.00 น. ตามที่นัดหมายไว้
พ.ต.อ. เอนก กล่าวต่อว่า ในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบข้อมูลการติดต่อสื่อสารและเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับโจ้ด้วย ประกอบกับจากการสืบสวนและสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่า มีการสั่งการจากสมเกียรติ, โจ้ และสำเริง จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คนในความผิดฐานร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดโดยนำทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานได้ยึดรักษาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
ต่อมาได้ยื่นขอศาลออกหมายค้นเพื่อตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้อง 13 จุดในจังหวัดสมุทรปราการ, สมุทรสาคร, เพชรบุรี, สงขลา และปัตตานี ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักของผู้ต้องหา ที่ทำงาน อู่ต่อเรือ เพื่อคุมตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม 2 คน คือ อนันตญา และ นรินทร ที่เป็นฝ่ายการเงินของโจ้ และเป็นผู้โอนเงินให้กับกลุ่มไต้ก๋งเรือทั้ง 3 ลำ ส่วนอีก 1 คนคือ ลดาวัลย์ หรือ เล็ก ได้หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว หลังจากนี้จะพิจารณาออกหมายจับต่อไป
ด้าน พล.ต.อ. ไกรบุญ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของพยานหลักฐานได้ แต่ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานที่ชัดเจน หลังจากนี้เตรียมขอออกหมายจับตำรวจสากล โจ้ ปัตตานี รวมถึงผู้ที่หลบหนีหมายจับรวม 3 คน ยืนยันไม่มีความกังวลใจที่จะดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม