ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับแกนนำและกลุ่มชาวบ้านเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินจำนวน 16 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมหลังจากที่พยายามฝ่าชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่เพื่อไปยื่นหนังสือให้กับนายกรัฐมนตรีที่เดินทางมาประชุม ครม. สัญจรที่ จ.สงขลา
โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหา 15 คน ส่งศาลเพื่อขออำนาจฝากขังผัดแรกที่ศาลจังหวัดสงขลา โดยคัดค้านการประกันตัว ส่วนเยาวชนอายุ 16 ปี ถูกคุมตัวส่งศาลเด็กและเยาวชน จ.สงขลา โดยทางทนายความของแกนนำได้ยื่นเรื่องขอประกันตัว
ล่าสุด นายบรรจง นะแส นักต่อสู้ด้านสิ่งแวดล้อม เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า
แกนนำ 15 คนไม่ได้รับการประกันตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว และเรียกหลักทรัพย์เป็นวงเงินคนละ 90,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,350,000 บาทนั้น ทางทีมงานหาให้ไม่ได้ ทำให้ทั้งหมดต้องถูกส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำกลาง จ.สงขลา ส่วนเยาวชนชายอายุ 16 ปี นั้น ศาลเด็กและเยาวชน จ.สงขลา สามารถประกันตัวได้เนื่องจากวงเงินหลักทรัพย์แค่ 5,000 บาท
“พรุ่งนี้ทางทีมทนายความและแกนนำจะยื่นเรื่องขอประกันตัวอีกครั้งหนึ่ง เราจะใช้บุคคลเป็นคนค้ำประกัน เนื่องจากชาวบ้านไม่มีเงิน แต่มีการระบุรายละเอียดให้ต้องเป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับผู้ต้องหา ในส่วนนี้เรากำลังดำเนินการประชุมหารือกัน”
นายบรรจง กล่าวอีกว่า เรายังยืนยันที่จะคัดค้านเรื่องนี้ต่อไป รัฐบาลไม่เคยตอบคำถามที่ทางกลุ่มต้องการ การกระทำในการคุกคามประชาชนควรจะต้องถูกประณาม อยากให้คนไทยที่ติดตามข่าวได้พิจารณาดูด้วยวุฒิภาวะของท่านว่า รัฐทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ อีกทั้งการชุมนุมเราได้มีการขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่มาก่อนหน้านี้แล้ว
ด้าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมปะทะกันจนมีคนบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายคืออะไร พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า “คนหนึ่งถือไม้ก็มี เขามาทำเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้ทั้ง 16 คนถูกควบคุมตัวอยู่ ซึ่งเป็นพวกฮาร์ดคอร์ เป็นพวกใจร้อน ไม่ใช่แกนนำอะไรทั้งสิ้น เราไม่ได้ใช้เรื่องการเมือง ไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองเลย”
