เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ซึ่งมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 173 วรรค 4 วินิจฉัยว่า พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 กรณีไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรค 1 และให้ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 ไม่มีผลใช้บังคับมาแต่ต้น (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 173 วรรค 3
ล่าสุดวันนี้ (23 พฤษภาคม) รศ.อานนท์ มาเม้า อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า เรื่อง พ.ร.ก. ถูกตีตกเป็นเรื่องใหญ่มากทั้งทางกฎหมายและการเมือง เพราะ พ.ร.ก. คือกฎหมายที่รัฐบาลออกโดยอ้างเหตุผลพิเศษ แทนที่รัฐสภาในยามปกติ
รศ.อานนท์ ระบุว่า ในอดีต พ.ร.ก. ที่ถูกตีตก มีแต่ถูกตีตกโดยสภา เพราะการตีตกโดยสภาเท่ากับสภาไม่พอใจการตัดสินใจของรัฐบาลที่ออก พ.ร.ก. นั้น นายกรัฐมนตรีที่ออก พ.ร.ก. ซึ่งถูกตีตกอย่าง จอมพล ป. เขาลาออก, พล.อ. เปรม เขายุบสภา
กรณี พ.ร.ก. ฉบับล่าสุดที่ถูกตีตกหนักข้อกว่านั้น เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตกด้วยเหตุผลฝ่าฝืนเงื่อนไขในการตราออกมาใช้ และไม่ต้องเอาไปให้สภาพิจารณาอีกแล้ว เนื่องจากมีสภาพโมฆะมาแต่ต้น
รศ.อานนท์ ระบุอีกว่า การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ กระทำการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการตรา พ.ร.ก. ย่อมเป็นเรื่องหนักหนากว่าการที่ตรา พ.ร.ก. ออกมาโดยสภาไม่เห็นด้วยในทางการเมือง
“ถ้าใครจำเหตุในการตรา พ.ร.ก. นี้ได้คือการอ้างความไม่พร้อมในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองการทรมานและอุ้มหาย ทั้งที่รัฐสภาออกกฎหมายมาแล้ว นี่เป็นนิสัยของระบอบประยุทธ์ที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่ออำนาจเสียจนเคยตัว แต่ประยุทธ์ยังนิ่งจริงๆ เป็นนายกฯ รักษาการจะลาออกก็ทำได้ แต่เราก็ไม่เห็นการแสดงท่าทีใดเลยแม้กระทั่งออกมาขอโทษประชาชนที่ถูกชะลอสิทธิตามกฎหมาย เพราะโดนเลื่อน บรรดาเนติบริกรที่ไปช่วยแนะนำให้ออก พ.ร.ก. ก็ควรรับผิดชอบ และคำนึงถึงหลักการทางรัฐธรรมนูญที่ควรจะเป็น วันนี้ประชุม ครม. ใครเจอ พล.อ. ประยุทธ์ หรือรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ลองถามหาความรับผิดชอบและผลกระทบดูครับ” รศ.อานนท์ กล่าว
อ้างอิง:
