การแข่งขันกอล์ฟรายการส่งท้ายปีของ LPGA Tour ศึก CME Group Tour Championship ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา รอบสุดท้ายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ‘โปรเม’ เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาวไทยมือ 9 ของโลก ออกสตาร์ทในตำแหน่งผู้นำร่วมสกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ โดยออกรอบในก๊วนสุดท้ายร่วมกับมิเชล วี และคิม คอฟแมน สองโปรจากสหรัฐฯ
ผ่านไปช่วง 9 หลุมแรก โปรเมเปิดตัวด้วยโบกี้ที่หลุม 1 ทำให้ร่วงจากตำแหน่งผู้นำร่วม ก่อนจะเก็บเพิ่ม 2 เบอร์ดี้ที่หลุม 4 และ 6 มี 11 อันเดอร์พาร์ ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มนำร่วมอีกครั้ง แต่ฝั่งโปรเจ้าถิ่นจากสหรัฐฯ อย่างเล็กซี ธอมป์สัน โปรมือ 4 ของโลก ซึ่งปีนี้นำคะแนนสะสม Race to CME Globe โชว์ฟอร์มร้อนแรงขึ้นนำ 13 อันเดอร์พาร์หลังผ่าน 9 หลุมแรก
เข้าสู่ช่วง 9 หลุมสุดท้าย เล็กซีเก็บเบอร์ดี้ในหลุมที่ 14 ทิ้งห่างขึ้นไปนำเดี่ยวที่ 14 อันเดอร์พาร์ แต่โปรเมก็สามารถเก็บเบอร์ดี้ได้เช่นกัน และไล่ขึ้นมาเป็น 13 อันเดอร์ ก่อนที่จะรักษาพาร์ได้ในหลุม 15 และ 16 แต่ในหลุมที่ 17 พาร์ 5 โปรเมทำเบอร์ดี้ไล่ขึ้นมาเป็น 14 อันเดอร์พาร์ ขึ้นนำร่วมกับเล็กซี ธอมป์สัน และเจสซิกา คอร์ดา
หลุมสุดท้ายโปรเมก็ไม่พลาดเก็บเบอร์ดี้ได้สำเร็จ โดยรอบสุดท้ายทำผลงานได้ 6 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ เก็บเพิ่มอีก 5 อันเดอร์พาร์ รวมเป็น 15 อันเดอร์พาร์ 273 แซงขึ้นนำเดี่ยวได้ในหลุมที่ 18 และคว้าแชมป์ CME Group Tour Championship รับเงินรางวัล 500,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 16.5 ล้านบาท
โดยหลังจบการแข่งขัน โปรเมให้สัมภาษณ์ผ่านทาง LPGA ว่ารู้สึกดีกับผลงานในปีนี้ที่สามารถก้าวขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกได้สำเร็จ และได้เรียนรู้อะไรต่างๆ จากผลงานตลอดทั้งปี
“ภูมิใจมาก เพราะแมตช์นี้ไม่ได้หวังเลยว่าจะได้แชมป์หรือไม่ได้ แค่อยากออกไปเล่นให้มีแมตช์สุดท้ายที่ดีของปีนี้เท่านั้นเอง
“รักปีนี้มาก รู้สึกว่าได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ไม่ใช่แค่เราได้แชมป์หรือขึ้นมือหนึ่งของโลกและตกลงมา รู้สึกว่าเรียนรู้ได้จากมัน ดีใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปีนี้”
ขณะที่รางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ Rolex Player of the Year เป็นการครองร่วมกันของสองโปรเกาหลีใต้ ปาร์กซุงฮยุน และรยูโซยอน โดยทั้งคู่มีคะแนนสะสมสูงสุดเท่ากันที่ 162 คะแนน
ภาพ: LPGA