เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 พฤษภาคม) ธนาคารแห่งประเทศอาร์เจนตินา (BRCA) ออกประกาศว่า แพลตฟอร์มด้านการเงินที่ดำเนินธุรกิจภายในอาร์เจนตินาจะถูกระงับการเสนอบริการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin ให้แก่ลูกค้าภายในประเทศ เพื่อระงับความเสี่ยงต่อตัวลูกค้า ที่อาจเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรงของประเทศ
ปัจจุบันประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ในแถบลาตินอเมริกา กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อรุนแรงมากที่สุดในโลก โดยตัวเลขเงินเฟ้อมีการพุ่งขึ้นกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขเงินเฟ้อมากที่สุดในรอบ 30 ปีของอาร์เจนตินา
และจากประกาศดังกล่าวของธนาคารแห่งประเทศอาร์เจนตินา บริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจในอาร์เจนตินา อย่างเช่น Ualá ฟินเทคยักษ์ใหญ่ หรือ Mercado Libre แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซครบวงจร ที่เสนอบริการการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้แก่ลูกค้าภายในประเทศ ก็จะต้องถูกระงับการเสนอบริการดังกล่าวกับลูกค้าในที่สุด
ทั้งนี้ ทางธนาคารแห่งประเทศอาร์เจนตินาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติมต่อนโยบายการแบนสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว นอกเหนือจากเหตุผลเพียงแค่ต้องการปกป้องผู้ใช้งานภายในประเทศ
ซึ่งการกระทำนี้สวนทางกับที่บริษัทด้านคริปโตจำนวนมากหรือแม้แต่ผู้ลงสมัครประธานาธิบดีของอาร์เจนตินาเอง ที่ยังเชื่อว่า Bitcoin จะเป็นตัวช่วยในการรักษามูลค่าของเงินให้กับประชากรทั่วไปในประเทศ หากสกุลเงินเปโซของอาร์เจนตินาพังทลายลงไป
แม้คริปโตจะไม่ได้มีการกำกับดูแลที่ชัดเจนจากประเทศอาร์เจนตินา แต่จากข้อมูลของ Chainalysis บริษัทข้อมูลด้านคริปโต เผยว่า อาร์เจนตินาถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตของตลาดคริปโตเร็วมากที่สุดในโลก โดยจาก Global Crypto Adoption Index ประเทศดังกล่าว สามารถติดอันดับที่ 13 ของโลกในปี 2022
ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงปีที่ผ่านมา บัวโนสไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินา ยังมีการจัดงาน LABITCONF ที่เชิญคนดังในแวดวงคริปโตจำนวนมากมาร่วมงาน อาทิ ไมเคิล เซย์เลอร์ ประธานกรรมการของ MicroStrategy หรือแม้แต่ วิทาลิก บูเทอริน ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เพื่อมาพูดถึงการเติบโตของคริปโตในอาร์เจนตินา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผลสำรวจเผย 65% ของนักลงทุนสถาบันคาด บิทคอยน์ มีโอกาสแตะ 1 แสนดอลลาร์ ลั่นปี 2023 จะเป็นปีที่ดีของ Bitcoin
- สาวกคริปโตเฮ! ราคาบิทคอยน์ฟื้นจนชดเชยความสูญเสียทั้งหมดตั้งแต่ FTX ล่ม
- เจมี ไดมอน จาก JP Morgan ชี้ สกุลเงินดิจิทัลรวมถึง Bitcoin เป็นแชร์ลูกโซ่แบบกระจายอำนาจ
อ้างอิง: