×

‘เตอร์กิชดีไลต์’ อาร์ดา กูเลอร์ ความมหัศจรรย์ใหม่จากตุรกี

19.06.2024
  • LOADING...
Arda Güler

“ผมสูบซิการ์ ผมร้องเพลง ผมเต้นรำกับเอดูอาร์โด แต่ตอนนี้ผมอยากแนะนำให้พวกคุณได้รู้จักกับเด็กที่น่าสนใจคนหนึ่ง” 

 

คาร์โล อันเชลอตติ ประกาศผ่านไมค์บนรถแห่ฉลอง 2 แชมป์ของฤดูกาล 2023/24 ทั้งลาลีกาและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่พิชิตโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ได้ ก่อนที่จะหันไปมองหาเด็กหนุ่มคนที่ว่า ที่ยืนม้วนต้วนเขินอายหลบอยู่ด้านหลังเขา

 

“เด็กคนนี้ขี้อายมาก” คาร์เลตโตอำ ก่อนจะเรียก “เอ้า! อาร์ดาออกมาพูดอะไรหน่อย”

 

พ่อหนุ่มน้อยเดินออกมา “สวัสดีชาวมาดริดิสตา พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน ผมขอขอบคุณทุกคน”

 

นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่ถึง 3 สัปดาห์ที่แล้ว ที่ยอดโค้ชอย่างอันเชลอตติพยายามที่จะแนะนำให้กองเชียร์เรอัล มาดริด ได้รู้จักกับเด็กหนุ่มที่จะเป็นอนาคตของทั้งทีมและอนาคตของวงการฟุตบอล

 

แต่เมื่อคืนนี้ กูเลอร์ได้แนะนำตัวเองให้กับโลกฟุตบอลทั้งใบได้รู้จักกับตัวเขาแล้ว ผ่านประตูสุดยอดของเขาที่มีส่วนช่วยให้ตุรกีเอาชนะจอร์เจียได้อย่างสุดมัน 3-1 และทำให้เขากลายเป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในยูโรรอบสุดท้าย ล้มสถิติเก่าของ คริสเตียโน โรนัลโดได้

 

ถึงอย่างนั้นวันนี้ก็ยังมีเรื่องราวที่อยากแนะนำให้รู้จักเด็กคนนี้เพิ่มเติมอยู่ดี

 

ความจริงอันเชลอตติไม่จำเป็นต้องแนะนำเด็กหนุ่มวัย 19 ปีคนนี้ก็ได้ เพราะชาวมาดริดิสตาเองพอจะรู้จักกูเลอร์กันบ้างแล้ว

 

 

สมญาของเขาที่คนเรียกขานว่า ‘เมสซีแห่งตุรกี’ อาจจะไม่ถูกใจแฟนๆ ชุดขาวสักเท่าไรนัก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะเด็กคนนี้คือหนึ่งในครอบครัวชุดขาวที่พวกเขายินดีและเต็มใจจะช่วยกันปกป้องและดูแล

 

เรอัล มาดริด ได้ตัว อาดาร์ กูเลอร์ มาจากเฟเนร์บาห์เชในช่วงฤดูร้อน 2023 ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 20 ล้านยูโร พร้อมกับเงื่อนไขในการจ่ายเพิ่มอีก 10 ล้านยูโร ซึ่งอาจจะเป็นเงินจำนวนไม่น้อยสำหรับเด็กอายุเพียง 18 ปี แต่ ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสร มั่นใจอย่างยิ่งว่าเงินนั้นหาง่ายกว่าเด็กที่มีพรสวรรค์ในระดับนี้

 

ในวันที่กูเลอร์ย้ายทีม เขาได้รับคำชื่นชมจาก วิตอร์ เปเรรา นายเก่าที่ให้โอกาสเขาลงแจ้งเกิดกับเฟเนร์บาห์เชตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยให้สัมภาษณ์กับ EL PAÍS ว่า เด็กคนนี้ ‘เป็นนักคิด’ ‘เป็นคนจัดระเบียบ’ และที่สำคัญที่สุดคือ ‘เป็นคนที่พร้อมจบงาน’

 

จบงานในความหมายถึง คนที่สามารถจ่ายบอลสุดท้ายและตัดสินเกมด้วยตัวเองได้ในช่วงชี้เป็นชี้ตาย

 

กูเลอร์บอกในวันเปิดตัวกับเรอัล มาดริด ว่า เขาอยากจะเป็น ‘ตำนาน’ ของสโมสรเหมือน อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่พอสมควร และสะท้อนให้เห็นถึงไฟฝันในตัวว่า แม้จะเป็นคนขี้อาย แต่เขาไม่กลัวที่จะฝัน

 

พอเปิดตัวเสร็จไปลงซ้อมมื้อแรก สิ่งแรกที่เขาทำคือการแตะลอดขาคนอื่น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่คอนเทนต์สำหรับโซเชียลมีเดียก็ตาม แต่ก็บ่งบอกถึงจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของกูเลอร์

 

“เด็กคนนี้มีเทคนิคการเล่นที่ดีมาก โดยเฉพาะในพื้นที่แคบๆ” คำพูดนี้อาจเป็นแค่คำชมเชยทั่วไปหากกล่าวโดยคนอื่น แต่เมื่อคนที่พูดคือ โทนี โครส ที่จับตาดูกูเลอร์ในการซ้อมมื้อแรกๆ ก็ตัดสินได้ทันทีว่าอีซ้ายของเด็กคนนี้ฉมังเดช

 

แต่โชคชะตาของกูเลอร์ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนใบหน้า เด็กหนุ่มที่ย้ายมาต่างบ้านต่างเมืองต้องเจอกับบททดสอบกำลังใจที่ยิ่งใหญ่

 

3 สัปดาห์หลังการย้ายทีม เขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่หมอนรองกระดูกในระหว่างการทัวร์สหรัฐอเมริกา และต้องเดินทางกลับมาสเปนคนเดียวเพื่อรักษา 

 

ต่อจากนั้นคือกล้ามเนื้อด้านหลังโคนขาฉีกขาด และตามด้วยกล้ามเนื้อต้นขา ซึ่งทุกครั้งอาการจะมาในเวลาที่เขาใกล้ที่จะหายดี

 

เรื่องนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มันสัมพันธ์กันหมดเกี่ยวกับสภาพร่างกายของเด็กหนุ่มที่กำลังโต เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามร้ายแรง เรอัล มาดริด จึงต้องดูแลประคบประหงมเขาราวกับไข่ในหิน และทำให้กูเลอร์ไม่ได้ลงสนามเลยจนกระทั่งถึงเกมโกปาเดลเรย์ในเดือนมกราคม ที่เรอัล มาดริด พบกับอารันดินา สโมสรในระดับดิวิชัน 4 ของประเทศ

 

ในเกมนั้นมีเหตุการณ์ที่กูเลอร์ไปแย่ง ดานี เซบาญอส เตะลูกฟรีคิก ซึ่งไม่เพียงแต่บ่งบอกถึงตัวตนจริงๆ ของเขาที่ลึกๆ แล้วเป็นคนไม่เกรงใคร ยังทำให้มองเห็นถึงเด็กคนหนึ่งที่ข่มความรู้สึกผิดหวังไว้ตลอดมา และต้องการที่จะชดเชยช่วงเวลาที่หายไปให้เร็วที่สุด

 

อันเชลอตติไม่ได้ติดใจอะไร “เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่และมีอนาคตที่สวยงามรออยู่” 

 

เพียงแต่เขาและทั้งทีมรู้และสัมผัสได้ถึงความหงุดหงิดผิดหวังที่อยู่ใต้รอยยิ้มที่แสนขี้อายนั้น

 

 

หากเป็นโค้ชคนอื่น กูเลอร์อาจได้โอกาสในการลงสนามต่อเนื่องและมากขึ้นกว่านี้ แต่สำหรับอันเชลอตติและเรอัล มาดริด ที่มีทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก, จูด เบลลิงแฮม หรือแม้แต่ บราฮิม ดิอาซ โอกาสสำหรับเด็กน้อยมีเพียงนิด

 

กระแสข่าวถึงการส่งตัวเขาออกไปให้ทีมอื่นเล่นแบบยืมตัวเริ่มดังขึ้น แต่เจ้าตัวยืนกรานว่าเขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น

 

กูเลอร์ต้องรอถึงวันที่ 27 มกราคม กว่าจะได้โอกาสลงประเดิมสนามในลาลีกา นัดที่พบกับลาส พัลมาส โดยได้เล่นแค่ 9 นาที จากนั้นคือเกมกับคิโรนาในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ อีก 13 นาที โดยลงมาช่วยเรียกจุดโทษให้ทีมได้ด้วย และตามด้วย 3 นาทีในเกมกับราโย บาเยกาโน

 

วินเชนโซ มอนเตลลา นายใหญ่ทีมชาติตุรกี เริ่มกังวลกับสถานการณ์ของเด็กที่เป็นความหวังของชาติคนนี้ ถึงขั้นเดินทางมาเยี่ยมเป็นการส่วนตัวเลยทีเดียว “หวังว่าเขาจะได้เล่นมากกว่านี้ เพราะเขามีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ มันจะเป็นการดีกว่าสำหรับทั้งเรอัล มาดริด ทีมชาติของเรา และตัวของเขาเอง ถ้าเขาได้ลงเล่นมากขึ้น”

 

แต่เพราะนี่คืออันเชลอตติ เขามีวิธีของตัวเอง กูเลอร์ไม่ได้ลงเล่นอีกเลยจนถึงวันที่ 10 มีนาคม โดยลงเล่นนาทีเดียว แต่กลับสามารถทำประตูได้ ก่อนจะได้ลงเล่นในเกมกับโอซาซูนาอีก 5 นาที โดยลองยิงไกลจากระยะ 50 หลาไปชนคาน

 

คาร์เลตโตเก็บตัวเขาไว้ที่ข้างสนามในอีก 5 สัปดาห์ถัดมาโดยไม่ได้ลงสนามในชุดขาวอีกเลย ขณะที่ในทีมชาตินั้น แค่ 4 วันที่ไปรับใช้ชาติ กูเลอร์ลงเล่นจำนวนนาทีมากกว่าที่เล่นในระดับสโมสรถึง 3 เท่า

 

แต่เขารู้ว่าอันเชลอตติกำลังสอนอะไรเขาบางอย่าง

 

สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘ความอดทน’

 

ในที่สุดหลังจากที่อดทนมานาน เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเป็นใจ อันเชลอตติส่งเด็กหนุ่มคนนี้ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์และกระหายในการเล่นลงต่อเนื่อง เขาทำประตูได้ในเกมกับเรอัล โซเซียดัด กรานาดา และอลาเวส ก่อนที่จะยิงบีญาร์เรอัลอีก 2 ลูก 

 

จบฤดูกาล กูเลอร์เล่นให้เรอัล มาดริด ไป 379 นาที น้อยที่สุดในทีม แต่ทำได้ 6 ประตูจากโอกาสยิงเข้ากรอบ 6 ครั้ง ค่าเฉลี่ยต่อการทำประตูอยู่ที่ 63 นาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหัศจรรย์

 

น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสเกมระดับแชมเปียนส์ลีกอีกแม้แต่นาทีเดียว

 

ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว The Guardian จัดอันดับให้กูเลอร์อยู่ในกลุ่ม 60 นักเตะแห่งอนาคต โดยบรรยายถึงเขาเอาไว้ว่า 

 

“กองกลางตัวรุกคนนี้เป็นหนึ่งในกองกลางที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์สูงสุดที่ตุรกีเคยมีมา และเป็นดาวเด่นของหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดของซูเปอร์ลีก

 

“เขาคล้ายกับ บรูโน แฟร์นันด์ส, เควิน เดอ บรอยน์ และ เมซุต โอซิล ซึ่งมีอิทธิพลต่อตัวเขามาก โดยที่โอซิลเคยเปรียบเปรยอาร์ดาว่าเป็น ‘หมายเลข 10 แห่งอนาคต’ 

 

 

คำทำนายของ The Guardian ระบุเอาไว้ว่า “กูเลอร์คือของจริง เป็นนักเตะพรสวรรค์ที่พิเศษและมีศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของโลก”

 

ขณะที่ อาร์ดา ตูราน ตำนานทีมชาติตุรกี มองรุ่นน้องคนนี้ว่า “เรื่องของเขาเป็นเหมือนเรื่องราวมหัศจรรย์ เหมือนกับหนังฮอลลีวูดสักเรื่อง”

 

ส่วนคำทำนายของ คาร์โล อันเชลอตติ ที่มีต่อเด็กคนนี้คือ

 

“เขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเราในอนาคต ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะอยู่กับเราต่อไปในปีหน้า

 

“พวกเราชอบเขามาก เขาเด็กที่สุดในทีม และแม้แต่ลูกฟุตบอลก็ยังหลงรักเขาเลย”

 

และตอนนี้น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มหลงรัก อาร์ดา กูเลอร์ แล้ว

เด็กหนุ่มขี้อายผู้มีอนาคตสดใสเหมือนขนมหวานเตอร์กิชดีไลต์ 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X