อาร์ชบิชอปแห่งยอร์กสดุดี ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’ ในพิธีขอบคุณพระเจ้าของงานฉลองครองราชย์ 70 ปี ‘เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน’ ร่วมพิธีด้วย

ไฮไลต์ของการเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร วานนี้ (3 มิถุนายน) คือพิธีขอบคุณพระเจ้าที่มหาวิหารเซนต์ปอลในกรุงลอนดอน ที่มีพระบรมวงศานุวงศ์ นักการเมือง ตลอดจนบุคคลและองค์กรการกุศลที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงให้การสนับสนุน เข้าร่วม แต่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มิได้ทรงเข้าร่วมเนื่องจากปัญหาความไม่สบายพระวรกาย (Discomfort) โดยพระองค์ทอดพระเนตรพิธีดังกล่าวผ่านโทรทัศน์ที่ปราสาทวินด์เซอร์

โดยในพิธีนี้เจ้าชายชาร์ลส์ พระราชโอรสและพระรัชทายาท เป็นผู้แทนพระองค์ ขณะที่ความสนใจจำนวนมากมุ่งไปที่เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซ็กซ์ ซึ่งเป็นพระราชนัดดา รวมถึงเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ ซึ่งทรงปรากฏพระองค์ร่วมกันต่อสาธารณชนในอังกฤษเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก้าวลงจากการทรงงานในฐานะสมาชิกราชวงศ์เมื่อ 2 ปีก่อน และทรงย้ายไปใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา โดยมีรายงานว่าทั้งสองพระองค์ได้รับเสียงเชียร์จากผู้ที่อยู่ด้านนอกมหาวิหาร แต่ก็มีเสียงโห่เล็กน้อยเช่นกัน

และในพิธีดังกล่าว สตีเฟน คอทเทรล อาร์ชบิชอปแห่งยอร์ก ได้กล่าวสดุดีและขอบคุณต่อสมเด็จพระราชินีนาถ โดยตอนหนึ่งระบุว่า ด้วยความอดทนในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย ความสุขและความเศร้าโศก สมเด็จพระราชินีนาถยังคงทรงมอบพระองค์ในการรับใช้สหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ

ทั้งนี้ พระราชวังบักกิงแฮมยืนยันในภายหลังว่า สมเด็จพระราชินีนาถจะมิได้ทรงร่วมงานแข่งม้า Epsom Derby ครั้งที่ 243 ในวันนี้ (4 มิถุนายน) ซึ่งปกติพระองค์จะทรงเข้าร่วม โดยจะทรงทอดพระเนตรการแข่งขันดังกล่าวผ่านโทรทัศน์

และนอกจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แล้ว เจ้าชายแอนดรูว์ พระราชโอรสพระองค์หนึ่ง ก็มิได้ทรงเข้าร่วมพิธีขอบคุณพระเจ้าเมื่อวานนี้เช่นกัน เนื่องจากทรงมีผลตรวจโควิดเป็นบวก สำนักข่าว Reuters ระบุว่า ทำให้สมาชิกราชวงศ์มีความกระอักกระอ่วนพระทัยลดลง เนื่องจากชื่อเสียงของเจ้าชายแอนดรูว์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากคดีที่หญิงรายหนึ่งยื่นฟ้องเจ้าชายต่อศาลในสหรัฐฯ ว่าถูกพระองค์ล่วงละเมิดเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ ซึ่งมีการยุติคดีกันไปแล้ว และพระองค์ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ขณะที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ซึ่งเป็นผู้อ่านพระคัมภีร์ในพิธีดังกล่าว ก็พบกับเสียงเชียร์และเสียงโห่จากฝูงชนที่อยู่นอกมหาวิหาร ซึ่งสะท้อนถึงความโกรธเคืองของสาธารณชนที่มีต่อการปฏิบัติของเขา ที่ละเมิดกฎของรัฐบาลของเขาเสียเองในช่วงการระบาดของโควิด

นอกจากนี้ยังมีการร่วมแสดงความยินดีจากทั่วโลก โดยผู้นำเกาหลีเหนืออย่าง คิมจองอึน ได้ส่งข้อความร่วมแสดงความยินดีกับสมเด็จพระราชินีนาถ เช่นเดียวกับผู้นำคนอื่นๆ อาทิ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

บทความที่เกี่ยวข้อง:

อ้างอิง: