เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ (ฉก.อรัญประเทศ) ร่วมกับหน่วยฝึกการรบพิเศษที่ 11 (นฝด.11) ได้สนธิกำลังลาดตระเวนทางอากาศด้วยอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามการกระทำความผิดบริเวณแนวชายแดนอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ระหว่างการลาดตระเวน เจ้าหน้าที่ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย 2 คน บริเวณพิกัด(ท่าตาทุย) ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว กำลังลงเรือข้ามฟากจากฝั่งกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทย และเมื่อขึ้นฝั่งได้แล้วได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรออยู่ขับออกไปจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงทำการติดตามและแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ
จากการสอบสวน ชายทั้งสองคนให้การว่าเดินทางมาจากฝั่งกัมพูชาโดยผ่านช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากไม่สามารถใช้ช่องทางบริเวณอื่นได้จากการกวดขันเรื่องเวลาเปิด-ปิดด่าน เครื่องกีดขวางลวดหนาม 3 ชั้น และความเข้มงวดในการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จึงเลือกที่จะลักลอบข้ามแดนบริเวณคลองพรหมโหด เพราะเป็นลำคลองที่แคบ ข้ามง่าย และเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวชายทั้งสองคนพร้อมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปยังสถานีตำรวจภูธรคลองลึกเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ผลการปฏิบัติและการซักถาม:
- สมชาย ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากชายไม่ทราบชื่อให้เปิดบัญชีม้า ได้รับค่าจ้างบัญชีละ 5,000 บาท จึงได้ทำการเปิดบัญชีไปแล้ว 5 บัญชี ต่อมาชายคนดังกล่าวได้ให้คนมารับจากบ้านพักเพื่อเดินทางข้ามไปยังกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน โดยผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ เพื่อไปสแกนหน้าให้กับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์
- สุภโชค ให้การว่าตนกับภรรยาเดินทางมายังอำเภออรัญประเทศเพื่อข้ามไปเล่นการพนันที่กรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา เนื่องจากไม่มีหนังสือเดินทาง และจุดอื่นข้ามได้ยากเพราะมีแนวลวดหนาม จึงติดต่อคนรู้จักเพื่อหาผู้นำพาเดินทางข้ามไปยังประเทศกัมพูชา โดยได้เดินทางข้ามไปเมื่อคืนวันที่ 13 มิถุนายน ผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ
- ชัยพล (ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์) รับสารภาพว่ามีหน้าที่รอรับคนที่ลักลอบข้ามมาจากประเทศกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติ