Apple Inc. บริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาด 2.61 ล้านล้านดอลลาร์ สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งกำลังเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัวลง แต่ขณะเดียวกันก็มีเงินสดเหลืออยู่ในมือเป็นจำนวนมาก นำไปสู่การคาดการณ์ว่าจะเห็นดีลเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่ตามมาหลังจากนี้
ชื่อของบริษัทที่มีข่าวว่าเป็นเป้าหมายการลงทุนของ Apple ประกอบไปด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น Walt Disney Co., Netflix Inc., Tesla Inc., Peloton Interactive Inc. และ Sonos Inc. แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่คาดหวังว่า Apple จะเข้าซื้อบริษัทที่กล่าวมานี้ก็ต้องผิดหวังมาตลอด
Kevin Walkush ผู้จัดการกองทุนของ Jensen Investment Management กล่าวว่า “คุณอาจจะกำลังมองข้ามมูลค่าของธุรกิจ หากคุณกำลังคิดว่าปัจจัยหนุนการเติบโตจะมาจากการเข้าซื้อกิจการ มันเป็นการเดิมพันที่มีความน่าจะเป็นต่ำ”
ที่ผ่านมา Apple ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ซื้อกิจการค่อนข้างน้อย สวนทางกับบริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น Microsoft Corp. และ Amazon.com Inc. ในทางกลับกัน Apple ชอบที่จะเข้าลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็กเพื่อเจาะตลาดใหม่ๆ แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามหลายปีกว่าที่จะออกดอกออกผล
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของ Apple กลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี 2023 เพิ่มขึ้น 25% แม้ว่าบริษัทจะยังไม่ได้มีการปรับกลยุทธ์มากนัก โดยตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมาราคาหุ้น Apple ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยปีละ 39% เมื่อรวมกับเงินปันผล ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10%
ในอดีตที่ผ่านมา Apple เคยทุ่มเงินลงทุนสำหรับซื้อกิจการมากที่สุดด้วยมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเข้าซื้อ Beats Music และ Beats Electronics ในปี 2014 ในขณะที่ Microsoft อยู่ระหว่างการเข้าซื้อกิจการของ Activision Blizzard ด้วยมูลค่า 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์
และเมื่อปี 2022 บริษัทใช้เงินลงทุนสำหรับซื้อกิจการเพียง 306 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 1.5 พันล้านดอลลาร์เมื่อปี 2020 ท่ามกลางการคาดการณ์ว่ารายได้ของบริษัทมีแนวโน้มจะลดลง 2% ในปีนี้
แทนที่จะนำเงินสดไปซื้อกิจการเพิ่มเติม Apple เลือกที่จะกระจายกระแสเงินสดส่วนเกินกลับไปให้ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนและเงินปันผล แม้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คิดเป็นมูลค่ารวมกันกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์เมื่อปี 2022 แต่บริษัทยังคงมีเงินสดเหลืออยู่ในมืออีก 1.65 แสนล้านดอลลาร์ ในรูปของเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด และเงินลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Apple ออกมากล่าวว่า (ค่อนข้าง) เต็มใจที่จะเปลี่ยน iPhone มาใช้พอร์ต USB-C ตามกฎของ EU คาดการเปลี่ยนนี้จะเกิดขึ้นกับสินค้าที่ขายทั่วโลก
- มาแล้วลูกจ๋า พอร์ต USB-C ที่หนูอยากได้ เพราะในที่สุด Apple อาจต้องฆ่าพอร์ต Lightning ของตัวเอง
- Apple (ถูกบังคับ) บอกลาพอร์ต Lightning หลังรัฐสภายุโรปอนุมัติกฎหมายที่กำหนดให้อุปกรณ์ IT ต้องใช้ ‘พอร์ต USB-C’ เป็นมาตรฐานเดียว
อ้างอิง: