แหล่งข่าววงใน เปิดเผยว่า Apple อาจจำใจต้องลดกำลังการผลิต iPhone 13 ลงจากเป้าหมายเดิมในปีนี้ถึง 10 ล้านเครื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญ
ก่อนหน้านี้ Apple ได้วางเป้าหมายจะผลิต iPhone 13 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ 90 ล้านเครื่อง แต่ล่าสุดบริษัทได้แจ้งไปยังพาร์ตเนอร์ในสายการผลิตว่าต้องลดตัวเลขดังกล่าวลงเนื่องจากซัพพลายเออร์ ได้แก่ Broadcom และ Texas Instruments ไม่สามารถจัดส่งชิ้นส่วนได้ตามจำนวนที่ต้องการ
Apple ถือเป็นผู้ซื้อชิปรายใหญ่และมีกำลังซื้อสูงที่สุดของโลก แต่ถึงกระนั้นบริษัทก็ยังประสบปัญหา Supply Disruptions เช่นเดียวกับบริษัททางด้านเทคโนโลยีอื่นๆ บริษัทผู้ผลิตชิปหลายรายได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่าความต้องการชิปในตลาดจะแซงหน้าอุปทานต่อไปตลอดทั้งปีหน้า และมีความเป็นไปได้ที่ยาวนานกว่านั้น
ปัจจุบัน Apple ใช้ชิ้นส่วนจอแสดงผลจาก Texas Instruments และใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไร้สายจาก Broadcom ในการผลิต iPhone แหล่งข่าวระบุว่า การขาดแคลนชิปจาก Texas Instruments มีผลต่อการแสดงจอ OLED และบริษัทยังขาดแคลนชิ้นส่วนอื่นๆ จากซัพพลายเออร์เจ้าอื่นๆ อีกด้วย
Apple และ Texas Instruments ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะที่ Broadcom ยังไม่ตอบรับการขอความเห็นจาก Bloomberg
ราคาหุ้นของ Apple ร่วงลง 1.6% ลงไปสูงระดับ 139.27 ดอลลาร์หลัง Bloomberg รายงานข่าวปัญหาที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับราคาหุ้นของ Broadcom และ Texas Instruments ที่ปรับตัวลดลงเช่นกัน
อ้างอิง