Bloomberg รายงานว่า Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่งตลาดวอลล์สตรีทต้องเผชิญกับวิกฤตอีกระลอก โดยไม่กี่วันหลังจากที่เจอ Barclays หั่นอันดับเครดิตความน่าลงทุนสู่ระดับ Underweight พร้อมกับปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นสู่ระดับ 160 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 161 ดอลลาร์ ล่าสุด Apple ก็โดน Piper Sandler & Co. ของนักลงทุนชื่อดังอย่าง Harsh Kumar หั่นเครดิตลงอีกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ Piper Sandler & Co. ให้เหตุผลการหั่นเครดิตของ Apple ในครั้งนี้ว่าเป็นผลจากความกังวลด้านสภาพแวดล้อมมหภาคที่อ่อนแอในจีน ซึ่งจะทำให้ความต้องการ iPhone ลดลง
ด้าน Kumar กล่าวว่า บริษัทของตนค่อนข้างกังวลกับปริมาณสินค้าคงคลังของสมาร์ทโฟน Apple ดังนั้นจึงลดคำแนะนำในการลงทุนใน Apple ลงมาอยู่ที่ระดับ Neutral จากระดับ Overweight ซึ่งเป็นมุมมองเชิงบวกที่ยึดถือมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020
ทั้งนี้ Apple กลายเป็นหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของวอลล์สตรีทที่ประเดิมปี 2024 ด้วยข่าวที่ไม่น่าพิสมัย ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg การปรับเครดิตของ Piper Sandler & Co. ในครั้งนี้จะส่งผลให้การซื้อขายหุ้นของ Apple ในตลาดลดลงไปอีก โดยเปอร์เซ็นต์ของนักวิเคราะห์ที่มีความมั่นใจต่อ Apple ในขณะนี้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าความวิตกกังวลจนนำไปสู่การหั่นเครดิตสองครั้งรวดในรอบสัปดาห์นี้ของ Apple เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะ Apple ถือเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เพียงแห่งเดียวที่มีผลประกอบการหดตัวใน 4 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์ที่ Bloomberg รวบรวมมาคาดว่ารายได้ของ Apple จะมีการเติบโตเพียง 3.6% ในปีงบประมาณ 2024 และการเติบโตของกำไรที่ 7.9%
ขณะนี้นับตั้งแต่เปิดตลาดในปี 2024 หุ้น Apple ลดลงแล้วมากกว่า 5% โดยเมื่อวานนี้ (4 มกราคม) หุ้นยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีแห่งนี้ร่วงลงอีกมากกว่า 1% หลังจาก Piper Sandler & Co. ปรับลดอันดับเครดิตลง
อ้างอิง: