‘อภิชาติ จูตระกูล’ ผู้รับไม้ต่อจาก ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ที่ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ลงไปเล่นการเมือง เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา วันนี้ออกมาพบปะสื่อในรอบหลายปี พร้อมเดินหน้าเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีต่อทันที หวังชิงกำลังซื้อบนทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ราคาเข้าถึงง่าย เริ่มต้น 15-30 ล้านบาท
หลังจากโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริ ดอนเมืองเพิ่ง Sold Out ไปได้ไม่นาน ‘แสนสิริ’ ก็จ่อเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีต่อทันที และสิ่งที่น่าสนใจคือ บ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริที่ออกแบบมาทั้งหมด 4 ดีไซน์อยู่ในเซกเมนต์ลักชัวรี
โดยรวมแล้ว ในปีนี้แสนสิริจะเปิดตัวทั้งหมด 10 โครงการ มูลค่ารวม 21,900 ล้านบาท หนึ่งในนั้นก็มีเศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ อยู่บนพื้นที่ 100 ตารางวา เตรียมพรีเซลวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ ตามด้วยเศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 ที่จ่อเปิดขายเร็วๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘แสนสิริ’ เดินหน้าย้ำเจ้าตลาดซูเปอร์ลักชัวรี เตรียมส่ง 7 โครงการภายใต้พอร์ต Sansiri Luxury Collection
- เครือโรงแรมของ ‘แสนสิริ’ The Standard และ Bunkhouse ติดอันดับโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก!
- เครือโรงแรม The Standard เตรียมนำ ‘ธุรกิจ Residences’ บุกไทย จับมือแสนสิริเปิดที่หัวหิน และเครือเซ็นทรัลที่ภูเก็ต
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ยังคงเป็นผู้ประกอบการ นักธุรกิจตั้งแต่รายใหญ่ไปจนถึงรายเล็ก SME หรือแม้แต่แม่ค้าออนไลน์และยูทูเบอร์ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งก็ถือเป็นกลุ่มที่เริ่มมีกำลังซื้อและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
“การขยายโครงการใหม่ๆ จะช่วยทำให้แสนสิริรักษาความเป็นผู้นำในตลาดลักชัวรีได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็ทำได้ดีมาตลอด เห็นได้จากความสำเร็จของแบรนด์นาราสิริ พหล-วัชรพล ตามด้วยบูก้าน กรุงเทพกรีฑา และเศรษฐสิริ ดอนเมือง ที่ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกสร้างยอดขายได้กว่า 25,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 37%” ประธานกรรมการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว
โดยเฉพาะแบรนด์เศรษฐสิริที่อยู่ในตลาดมากว่า 20 ปี ในช่วงนั้นราคาบ้านเริ่มต้น 7 ล้านบาท ถ้าเทียบกับปัจจุบันราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ขยับขึ้นตามต้นทุนที่ดินและค่าก่อสร้างให้สอดคล้องกัน ถึงวันนี้ต้องรีเฟรชแบรนด์โดยชูคำว่าบ้าน เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนภาพความสำเร็จที่ชัดเจนที่สุด
ทั้งนี้ ก็เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุน้อยลง หรืออยู่ราวๆ 30 ปี และประสบความสำเร็จเร็ว เน้นชูจุดขายการออกแบบที่ทันสมัย มีระบบรักษาความปลอดภัยหนาแน่น และมีส่วนกลางที่รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์
แม่ทัพแสนสิริย้ำว่า แผนการดำเนินงานทั้งหมดจะทำให้บริษัทสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่ที่ 33,000 ล้านบาทภายในปีนี้ โดยยอดขายหลักๆ จะมาจากตลาดลักชัวรี
รวมถึงอานิสงส์ของแนวโน้มตลาดบ้านเดี่ยวที่เริ่มมีปัจจัยบวก ทั้งอัตราเงินเฟ้อของไทยที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าที่ประเมินไว้ค่อนข้างเร็ว ขณะที่ภาพรวมการท่องเที่ยวก็ฟื้นตัวเร็วขึ้น โดยคาดการณ์ว่า ตลาดบ้านเดี่ยวในช่วงครึ่งหลังนี้จะขยายตัวอยู่ในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยรอบด้าน
อภิชาติยังฉายภาพต่อถึงมุมมองของภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงที่การเมืองยังไม่นิ่งว่า ถ้าจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วก็ยิ่งส่งผลดีต่อธุรกิจและเศรษฐกิจไทย แต่ส่วนตัวแล้วยังเชื่อมั่นว่า GDP ของประเทศยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย อยู่ที่ 3-4% ในปีนี้ ซึ่งถ้า GDP โต ธุรกิจอสังหาของเราก็จะโตตามไปด้วย
นอกจากนี้ นโยบายที่อยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ไขให้เร็วที่สุดคือ เรื่องปัญหาปากท้องประชาชน กลุ่มรากหญ้า และการปรับอัตราดอกเบี้ยต่างๆ