วันนี้ (31 ตุลาคม) ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา (ก.ร.) มีวาระพิจารณาเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ โดยมีมติเห็นชอบให้ ‘ว่าที่ ร.ต.ต. อาพัทธ์ สุขะนันท์’ ในฐานะรักษาการรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนต่อไป
ด้าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะเสนอชื่อว่าที่ ร.ต.ต. อาพัทธ์ เพื่อโปรดเกล้าฯ ต่อไป
ทั้งนี้ เหตุผลที่เห็นชอบว่าที่ ร.ต.ต. อาพัทธ์ เป็นเลขาธิการสภานั้น เพราะมีความอาวุโสสูงสุด มีประสบการณ์ด้านการประชุมและด้านกฎหมายรอบด้านมาแล้ว จึงเป็นบุคคลที่สมควรเสนอชื่อแก่ ก.ร. และ ก.ร. ก็เห็นชอบตามที่รัฐสภาเสนอ
สำหรับกระบวนการเป็นไปตามกฎของ ก.ร. คือ ต้องมีการเลือกโดยคณะกรรมการอย่างน้อย 3 คน ซึ่งคณะกรรมการทั้ง 3 คนได้มีมติเห็นชอบให้ว่าที่ ร.ต.ต. อาพัทธ์ เป็นผู้ที่มีคะแนนสูงสุด ตนจึงได้นำชื่อเสนอ ก.ร. ในวันนี้
วันมูหะมัดนอร์กล่าวต่อว่า รายชื่อผู้สมัครในวันนี้มีทั้งหมด 5 คนจาก 6 คน ซึ่งอีกหนึ่งคนเป็นผู้อาวุโสน้อยที่สุด และติดภารกิจต่างประเทศ จึงได้สละสิทธิ์ ทำให้เหลือ 5 คน โดยได้มีการพิจารณาจากคะแนนของคณะกรรมการที่คัดเลือกจากทั้งความอาวุโส อำนาจการบริหารงาน รวมทั้งให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ด้วย
ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีผู้สมัคร 3 คน ตนได้มีคำสั่งยกเลิกไปแล้ว เพราะเห็นว่าผู้สมัครยังน้อยไป เนื่องจากมีรองเลขาธิการฯ ถึง 6 คน แต่สมัครเพียง 3 คน ดังนั้นจึงคิดว่าควรเปิดโอกาสอีกครั้งเพื่อให้ได้บุคคลที่เหมาะสมที่สุด
“ผมได้ยืนยันกับที่ประชุม ก.ร. ว่า การแต่งตั้งคราวนี้นอกจากจะมีกรรมการแล้ว ผมขอยืนยันว่าเราจะใช้กฎของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 อย่างเคร่งครัด คือไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง จากสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกรัฐสภา หรือบุคคลอื่น แต่ให้เป็นไปตามความสามารถทุกประการ ซึ่งไม่มีใครสงสัยอะไร” วันมูหะมัดนอร์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในรอบแรกที่มีผู้สมัคร 3 คน เป็นเพราะมีการร้องเรียนทำให้ต้องยกเลิกใช่หรือไม่ วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า มีการร้องเรียนอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่สาระสำคัญคือเราต้องการให้มีผู้สมัครจำนวนมาก เพื่อที่จะให้มีการคัดเลือกด้วยความรอบคอบ และไม่มีการครหาว่าจะมีการล็อกให้คนนั้นคนนี้ จึงได้ชี้แจงชัดเจนว่า ให้ทุกคนที่มีคุณสมบัติพร้อมมาสมัคร ไม่มีการแทรกแซง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามนั้น
ทั้งนี้ เพื่อให้ข้าราชการในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรที่ตนรับผิดชอบเขาได้มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต และเมื่อจะมีการเลื่อนระดับสูงก็ไม่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้ราชการทั้งหลายมีกำลังใจว่า ใครมีความรู้ความสามารถก็จะได้รับการสรรหาได้ ไม่ใช่ว่ามีความหวั่นวิตกว่าจะมีการแทรกแซง ว่าจะมีการล็อกคนนั้นคนนี้ ยืนยันว่าในยุคที่ตนเป็นประธานสภาไม่มีเรื่องแบบนี้แน่
สำหรับตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นตำแหน่งสำคัญที่มีบทบาทในการเป็น ‘แม่บ้าน’ บริหารกิจการของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ สส. ในฐานะผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่ในการออกกฎหมาย และเป็นหนึ่งในสามเสาหลักอำนาจอธิปไตย คืออำนาจนิติบัญญัติ ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะทำหน้าที่เป็นเลขาธิการรัฐสภาโดยตำแหน่งไปพร้อมกันด้วย ถือว่ามีบทบาทสำคัญ ซึ่งหากใครเคยรับชมการถ่ายทอดการประชุมสภาจะเห็นบุคคลที่นั่งอยู่หน้าบัลลังก์ประธานสภา นั่นคือผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวนี้นั่นเอง
ภาพ: สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร