เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (9 สิงหาคม) บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ( AP ) รายงานกำไรสุทธิ 2Q65 จำนวน 1.57 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 41.2%YoY แต่ลดลง 9%QoQ) โดยรายได้อยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22.7%YoY แต่ลดลง 9%QoQ) ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบ 93% (มูลค่าเพิ่มขึ้น 21.6%YoY) และที่เหลือเกิดจากคอนโดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง
อัตรากำไรขั้นต้นยังแข็งแกร่งที่ 33.6% เทียบกับ 33.3% ใน 1Q65 และ 31.6% ใน 2Q64 ส่วนแบ่งกำไรจาก JV เพิ่มขึ้น 108%YoY และ 53%QoQ สู่ 378 ล้านบาท โดยเกิดจากการโอน Backlog เพิ่มขึ้น รายได้ใน 1H65 อยู่ที่ 2.07 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 20.8%YoY) และกำไรสุทธิ 1H65 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 31.2%YoY)
กระทบอย่างไร:
ในวันนี้ ราคาหุ้น AP ปรับเพิ่มขึ้น 1.94%DoD สู่ระดับ 10.40 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลดลง 0.10%DoD อยู่ที่ระดับ 1,617.21 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:
ปัจจุบัน AP มี Backlog มูลค่า 3.36 หมื่นล้านบาท โดย 60% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2565 และที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2566-2567 เมื่อจำแนกตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ พบว่า Backlog 48% มาจากโครงการแนวราบ 46% มาจากคอนโดร่วมทุน และ 6% มาจากคอนโดของ AP
ทั้งนี้ SCBS ประมาณการรายได้ปี 2565 ไว้ที่ 3.87 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22%YoY) โดยมี Secured Revenue ที่ 88% ในขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 17.7%YoY สู่ 5.34 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง
ขณะที่คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q65 น่าจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ และเพิ่มขึ้น YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอนคอนโดใหม่ Life Sathorn Sierra มูลค่าโครงการ 6.2 พันล้านบาท ทำยอดขายได้แล้ว 56%
สำหรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ใน 2H65 ซึ่งเป็นงานที่ท้าทาย โดยในปี 2565 AP ได้ปรับเป้ามูลค่าโครงการเปิดใหม่ทั้งหมดลดลงเล็กน้อยจาก 7.8 หมื่นล้านบาท สู่ 7.5 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 233%YoY) รวม 60 โครงการ
โดยใน 1H65 AP เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วรวม 20 โครงการ แนวราบ 18 โครงการ และคอนโด 2 โครงการ มูลค่ารวม 2.13 หมื่นล้านบาท และทำยอดขายได้แล้ว 2.55 หมื่นล้านบาท หรือ 51% ของเป้ายอดขายปี 2565 ที่ 5.0 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 43%YoY)
ส่วนใน 2H65 AP มีโครงการที่จะเปิดตัวเพิ่มอีก 40 โครงการ แนวราบ 37 โครงการ และคอนโด 3 โครงการ บริษัทเปิดตัวคอนโดใหม่ขนาดใหญ่ที่สุดของปีนี้ Aspire Sukhumvit Rama 4 (มูลค่าโครงการ 4.2 พันล้านบาท) ในเดือนกรกฎาคม โดยทำอัตราการขายได้ที่ 23% ส่งผลทำให้ยอดขายใน 7M65 อยู่ที่ 3.0 หมื่นล้านบาท หรือ 60% ของเป้าที่วางไว้ในปี 2565
อย่างไรก็ดี SCBS มองว่ามีโอกาสสูงที่ AP จะทำยอดขายได้ตามเป้าที่บริษัทวางไว้ในปี 2565 แม้ว่าบริษัทอาจจะบริหารอุปทานในตลาดด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่น้อยลง
ปัจจัยเสี่ยงและความกังวลที่ต้องติดตามคือ การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อและต้นทุนใน 2H65 นอกจากนี้ยังต้องจับตาดูระยะเวลาการก่อสร้าง เนื่องจากมีสัญญาณขาดแคลนแรงงานมีฝีมือในบางพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลทำให้การโอนโครงการล่าช้า
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP