แม้ว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทยปีนี้จะดิ่งลงในทิศทางเดียวกันกับภาพของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนี SET ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ติดลบไป 7% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี ลดลงมาแตะระดับ 1,540 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนสิงหาคม 2564
อย่างไรก็ตาม บัลลังก์ของหุ้นที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) มากที่สุดในตลาดหุ้นไทยมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อราคาหุ้นของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) สามารถวิ่งขึ้นสวนตลาดเพิ่มขึ้น 15.57% มาอยู่ที่ 70.50 บาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปของบริษัทขยับขึ้นมาเป็น 1 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สำหรับปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 – กันยายน 2566) บริษัทจะเริ่มกลับมามีกำไรอีกครั้ง โดยคาดว่าในปีงบดังกล่าวจะมีผู้โดยสารใช้บริการทั้งสิ้น 96 ล้านคน จากทั้งหมด 6 สนามบินของ AOT โดยมีจำนวนเที่ยวบินราว 665,000 เที่ยวบิน
ขณะที่ บมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งเป็นอดีตหุ้นที่มาร์เก็ตแคปใหญ่สุดของไทยเมื่อปีก่อน มาปีนี้ราคาหุ้นปรับตัวลง 10.52% ปิดที่ 34 บาท กดให้มาร์เก็ตแคปลดลงมาเหลือ 9.77 แสนล้านบาท หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 2
ส่วนหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่สุดเป็นอันดับ 3-5 ในปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดย บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กระโดดขึ้นจากอันดับ 7 เมื่อปลายปีก่อน มาอยู่ในอันดับ 3 แซงหน้าบริษัทอย่าง บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF)
โดยราคาหุ้นของ PTTEP เพิ่มขึ้น 38.14% ทำให้มาร์เก็ตแคปขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6.47 แสนล้านบาท ส่วนราคาหุ้นของ ADVANC ลดลง 11.74% และ GULF เพิ่มขึ้น 1.64% มีมาร์เก็ตแคปที่ 6.03 แสนล้านบาท และ 5.45 แสนล้านบาท