กฤช ภาคากิจ เลขานุการบริษัท ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT ส่งหนังสือชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไทย (ตลท.) เรื่อง การแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
ตามหนังสือที่อ้างถึง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้รายงานให้ทราบว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 16/2568 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมได้มีมติให้ความเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ตามรายงานผลการศึกษาของที่ปรึกษา เพื่อใช้เป็นกรอบในการเจรจากับ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ทอท. และเป็นธรรมกับคู่สัญญา
ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 18/2568 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ประชุมได้มีมติ เห็นชอบผลการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการแก้ไขปัญหา และ อนุมัติให้ ทอท. แก้ไขสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานทั้ง 5 แห่ง (สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และหาดใหญ่) ตามผลการเจรจาของคณะทำงาน โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ทอท. ได้พิจารณาเปรียบเทียบระหว่างการแก้ไขสัญญากับการยกเลิกสัญญาแล้วเปิดประมูลใหม่ และสรุปว่า ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือการแก้ไขสัญญา โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- รักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ ทอท. สามารถให้บริการผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง (Level of Service) ไม่ต้องเสียเวลาหาผู้ประกอบการรายใหม่ซึ่งอาจใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 14 เดือน
- รายได้ที่มั่นคงกว่า ทอท. ยังคงได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีช่วงขาดรายได้
- ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่า การแก้ไขสัญญาให้ผลตอบแทนทางการเงินสูงกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำในกรณีหาผู้ประกอบการรายใหม่ในสถานการณ์ปัจจุบัน
- ลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ช่วยรักษาการจ้างงานและลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ในสัญญาฉบับแก้ไข ทอท. จะยังคงเงื่อนไขสำคัญคือ 1) การเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee: MG) ที่มีการเติบโตร้อยละ 5 ต่อปี, 2) ส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ร้อยละ 20 และ 3) ค่าผลประโยชน์ตอบแทนส่วนเพิ่ม (Upside) โดยมีรายละเอียดเฉพาะของแต่ละท่าอากาศยาน ดังนี้
1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
- ค่าตอบแทน: เรียกเก็บ MG ตามจำนวนผู้โดยสาร (เทียบเท่า 232.90 บาทต่อคน เติบโต 5% ทุกปี) และได้เจรจาขอส่วนแบ่งรายได้เพิ่มอีกร้อยละ 35 ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสาร (Spending per Head) ส่วนเกิน
- ระยะเวลาสัญญา: ขยายออกไปอีก 2 ปี เพื่อให้ครอบคลุมช่วงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) และการปิดซ่อมแซมพื้นที่อาคารปัจจุบันในช่วงปี 2575–2578
2. ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)
- ค่าตอบแทน: คงการเรียกเก็บ MG ต่อตารางเมตร (39,187.76 บาท/ตร.ม./เดือน) และ Revenue Sharing ที่ร้อยละ 20 หากผู้โดยสารฟื้นตัวเกิน 100% จะกลับไปใช้อัตราเดิมที่เคยตกลงไว้
- ระยะเวลาสัญญา: ขยายระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับการย้ายไปอาคารผู้โดยสาร 3 (Terminal 3) ซึ่งต้องมีการลงทุนใหม่ โดยระยะเวลาที่เหมาะสมในการขยายคือ 2 ปี (เพื่อให้คุ้มทุน 5 ปีนับรวมสัญญาคงเหลือ) แต่หากการก่อสร้างล่าช้าจนสัญญาเหลือน้อยกว่า 1 ปี ทอท. ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกสัญญาเพื่อประมูลใหม่
3. ท่าอากาศยานภูมิภาค (ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่)
- ค่าตอบแทน: เรียกเก็บ MG ตามจำนวนผู้โดยสาร (เทียบเท่า 129.67 บาทต่อคน และเติบโต 5% ทุกปี ตั้งแต่ปี 2573) พร้อมส่วนแบ่งรายได้เพิ่มอีกร้อยละ 35 ของยอดใช้จ่ายส่วนเกินเช่นเดียวกับ ทสภ.
- เงื่อนไขเพิ่มเติม: หากธุรกิจกลับมาดีเหมือนเดิมตามข้อเสนอ (Proposal) เดิมของ KPD ทอท. ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกเก็บค่าตอบแทนตามที่ KPD เคยเสนอไว้
ภาพ: umitc/Shutterstock


