วันนี้ (24 พฤศจิกายน) สมเด็จพระราชาธิบดี อัล-สุลต่าน อับดุลเลาะห์ ทรงตัดสินพระทัยเลือก อันวาร์ อิบราฮิม แกนนำฝ่ายค้านของมาเลเซีย ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ
อันวาร์มีกำหนดเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในเวลา 17.00 น. ของวันนี้ตามท้องถิ่น ถือเป็นการยุติภาวะความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังมาเลเซียเผชิญกับ ‘สภาแขวน’ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ช่วง 5 วันที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีพรรคหรือกลุ่มพันธมิตรใดได้ที่นั่งเกิน 50% ของสภาผู้แทนราษฎร
โดย 2 กลุ่มการเมืองผู้นำในการเลือกตั้ง ได้แก่ แนวร่วมฝ่ายค้าน ‘ปากาตัน ฮาราปัน’ (Pakatan Harapan: PH) ของ อันวาร์ อิบราฮิม ที่ได้ ส.ส. 82 ที่นั่ง และกลุ่มเปอริกาตัน เนชันแนล (Perikatan Nasional: PN) ของ มูห์ยิดดิน ยัสซิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ ส.ส. 73 ที่นั่ง ไม่สามารถรวบรวมพันธมิตรและจัดตั้งรัฐบาลผสมได้ทันเส้นตายเมื่อช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา (22 พฤศจิกายน)
อันวาร์วัย 75 ปี โลดแล่นอยู่บนถนนการเมืองมาเลเซียมาเป็นเวลากว่า 30 ปี โดยในช่วงปี 1993 เขาเคยได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของ มหาเธร์ โมฮัมหมัด จนเกิดเป็นกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าชายผู้นี้จะเป็นทายาทสืบทอดอำนาจของมหาเธร์ แต่ในท้ายที่สุดนั้น ทั้งสองก็มีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ภายหลังจากนั้น เขาถูกต้องโทษจำคุกจากคดีทุจริต และฐานมีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายด้วยกัน ก่อนที่ศาลฎีกาจะกลับคำพิพากษาจนได้รับการปล่อยตัวในปี 2004 และผงาดขึ้นเป็นแกนนำฝ่ายค้าน จนในท้ายที่สุด เขาก็สามารถก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองได้เป็นผลสำเร็จ
ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อันวาร์จะต้องรับบทหนักในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง อีกทั้งยังต้องจัดการกับความขัดแย้งด้านชาติพันธุ์ที่หยั่งรากลึกในสังคมมาเลเซีย โดยประเด็นที่เร่งด่วนที่สุดคืองบประมาณสำหรับปีหน้า ซึ่งถูกเสนอขึ้นตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง รวมถึงยังมีความท้าทายที่จะต้องเจรจากับกลุ่มการเมืองอื่นๆ เพื่อรักษาเสียงข้างมากในรัฐสภาให้ได้
แฟ้มภาพ: Arif Kartono / AFP
อ้างอิง:
