วันนี้ (9 ตุลาคม) เวลา 09.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มีการกำชับอะไรหรือไม่ว่า ได้มีการกำชับมาโดยตลอด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีความรุนแรง และวันนี้ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปติดตามสถานการณ์ ในวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคมนี้ ตนจะลงพื้นที่ไปตรวจดูอีกครั้ง และจะลงไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ด้วย
“เดี๋ยวไปตรงโน้นก็บอกทำไมไม่ไปตรงนี้ เดี๋ยวไปชายแดน ก็บอกทำไมไม่ไปน้ำท่วม พอไปน้ำท่วมก็บอกทำไมไม่ไปภาคใต้ ก็วนลูปอยู่แบบนี้ และวันศุกร์นี้ (10ต.ค.) จะไปตรวจดูน้ำท่วมที่ต้นทางแถวภาคกลางตอนบน แต่ไปแล้วต้องไปให้ได้เนื้อหามากที่สุด นัดฝ่ายความมั่นคง ศอ.บต. ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง กองทัพ ที่จะต้องมีการนัดหารือกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงฝ่ายความมั่นคงมีการประเมินการก่อเหตุในช่วงนี้ เป็นการต้อนรับรัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เราไม่ฟังเรื่องพวกนี้ จะต้อนรับหรือไม่ต้อนรับ แต่ต้องรับมือให้ได้ และจะต้องมีมาตรการเชิงรุกบ้าง
เมื่อถามว่าเหตุการณ์มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และถูกจับตาถึงการแก้ไขปัญหาในฐานะกำกับดูแลหน่วยงานความมั่นคง นายกรัฐมนตรี ยิ้มพร้อมพยักหน้ารับ และระบุสั้นๆ ว่า “อืม”
ส่วนแผนยุทธศาตร์แก้ไขปัญหาชายแดนใต้จะทำให้เป็นรูปธรรมหรือไม่ อนุทิน ยืนยันว่า เป็นรูปธรรมอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ผู้รับผิดชอบจะนำไปปฏิบัติ ไม่ว่าจะเน้นให้นโยบายชัดเจนแค่ไหน ในส่วนของตนหากดูแล้วบุคลากรไม่เหมาะสม ไม่ใส่ใจ หรือทำอะไรที่เต็มที่ ก็จะมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนบ้าง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการปล้นร้านทองที่ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส สูญทองคำมากกว่า 600 บาท มูลค่า 36 ล้านบาท คาดว่าแก๊งโจรหนีเข้ามาเลเซียว่า มีรายงานก็รับรายงานมา เราก็ต้องไปดูแล ก็มีทหารเข้าไปช่วยเจ้าของร้านทองที่ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทองคำยังอยู่ในประเทศหรือไม่ และพอจะระบุได้หรือไม่ว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียด ขอให้ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ได้ชี้แจง จะได้ชัดเจน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่อาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการ ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด มีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว ซึ่งไปดูในร่างนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา รัฐบาลนี้ ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐคนใดกระทำความผิดกฎหมายหรือผิดระเบียบ ก็จะมีโทษสถานหนัก โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน