วันนี้ (31 พฤษภาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) จะจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 เอง โดยย้ำว่าไม่มีปัญหาหรือจะส่งผลกระทบกับวัคซีนหลักของกระทรวงสาธารณสุข หากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ปลดล็อกให้ท้องถิ่นสั่งซื้อวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนเองก็เป็นการตัดสินใจที่ ศบค. ต้องรับผิดชอบ แต่ตนยืนยันไม่กระทบต่อวัคซีนที่กระทรวงสั่งซื้อ เพราะเชื่อว่าจะไม่มี วัคซีนเหลืออย่างแน่นอน ขณะเดียวกันในช่วงนี้ยังอยู่ในระยะที่คนไทยมีความต้องการที่จะฉีดวัคซีน กระทรวงสาธารณสุขจึงดำเนินการนโยบายเดิมคือปูพรมฉีดวัคซีนให้มากที่สุด
“ถ้า ศบค. อนุมัติ เราก็ต้องปฏิบัติตามนโยบาย แต่หากตัดสินใจเช่นนั้น ศบค. ก็ ต้องรับผิดชอบ ช่วงนี้ยังอยู่ในระยะที่คนไทยมีความต้องการที่จะฉีดวัคซีน กระทรวงสาธารณสุขจึงดำเนินการนโยบายเดิมคือปูพรมฉีดวัคซีนให้มากที่สุด” อนุทิน กล่าว
อนุทินยังกล่าวถึงกรณีกระทรวงยุติธรรมจะประสานขอวัคซีนเพื่อแก้ปัญหาการติดเชื้อในเรือนจำว่า หากขอมาก็ไม่ขัดข้อง แต่ทั้งนี้ต้องมีแผนในการกระจายและฉีดวัคซีนมาด้วย จะขอไปเก็บไว้ไม่ได้ เพราะจำนวนน่าจะเป็นแสนโดส
เมื่อถามว่าวันนี้วันที่ 31 พฤษภาคมแล้ว และพรุ่งนี้จะเข้าวันที่1 มิถุนายน ความคืบหน้าวัคซีน AstraZeneca มาถึงไทยหรือยัง และจะทันฉีดวันที่ 7 มิถุนายนนี้หรือไม่ อนุทินกล่าวสั้นๆ ว่า “ยังไงก็มีวัคซีนฉีดให้ประชาชนแน่นอน เพราะวัคซีนทุกยี่ห้อล้วนมีประสิทธิภาพ”
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ยังสูงทุกวัน ล่าสุดวันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 5,485 คนนั้น อนุทินกล่าวว่า ลักษณะคนติดเชื้อตอนนี้จะเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ ซึ่งง่ายต่อการจัดการ ใช้วิธีซีล ตรวจเชิงรุกและควบคุมพื้นที่ให้อยู่ไนวงจำกัดจะง่ายกว่ากรณีคนติดเชื้อกระจัดกระจาย โดยขณะนี้อยากให้ดูตัวเลขผู้ติดเชื้อที่หายแล้วควบคู่ไปด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า