วันนี้ (30 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ว่าตนและกระทรวงสาธารณสุขจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนมาตรการเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจและมีความปลอดภัย อาทิ ล่าสุด ได้สั่งห้ามบางประเทศเข้าไทย และปรับมาตรการให้บางประเทศเข้ามาแล้วต้องกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้แบบไม่มีเงื่อนไข
ส่วนความกังวลเรื่องการเปลี่ยนวิธีการตรวจเมื่อเข้ามาในประเทศไทยจาก RT-PCR เป็น ATK ล่าสุดคือทบทวนแล้ว ย้ำว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งที่เรากังวลมากที่สุด ในส่วนของวัคซีนได้ระดมฉีด เพราะต้องการเสริมเกราะให้ประชาชนก่อน ตอนนี้อยากให้ทุกคนรีบมารับวัคซีน ประเทศไทยให้บริการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ขณะเดียวกันยังมีทีมไปตามฉีดให้ถึงพื้นที่ เป้าหมายในปีนี้ของกระทรวงสาธารณสุขคือ 120 ล้านโดส
สำหรับการเกิดขึ้นมาของโอไมครอน ปัจจุบันนี้โลกกำลังหาวัคซีนเพื่อจัดการกับเชื้อตัวนี้ ไทยเองก็ติดตามความก้าวหน้าจากทั่วโลก ขณะที่ในประเทศได้มีทีมศึกษาวิจัย โดยหวังว่าเร็วๆ นี้จะมีวัคซีนที่สามารถป้องกันเชื้อตัวใหม่นี้ได้
“ภาพรวมของกระทรวงสาธารณสุข คือเราต้องเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องของแผนการ เวชภัณฑ์ บุคลากร และวัคซีน เพื่อรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และเรายังมองไปถึงในอนาคต ที่ได้ดำเนินการเรื่องวัคซีน Gen ใหม่ๆ ไว้แล้ว” อนุทินกล่าว
โดยล่าสุด อนุทินได้เข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยพิเศษ ณ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2564 เพื่อพิจารณาการจัดทำกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อสร้างพันธสัญญาระหว่างประชาคมโลก ในการร่วมกันป้องกัน ตรวจจับ และตอบโต้โรคระบาดระดับโลก ไม่จำกัดเฉพาะโควิด