วันนี้ (25 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลเรียกขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ณ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต บริเวณถนนวิภาวดีขาเข้า (จุดเกิดอุบัติเหตุ) โดยมีผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยและภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วม
สำหรับพิธีทำบุญในครั้งนี้ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา และข้าราชการ ได้จัดขึ้น โดยได้รับเมตตาจาก พระวัชรญาณมุนี วิ. เจ้าคณะตำบลบางปรอก เจ้าอาวาสวัดเทพสรธรรมาราม เป็นประธานสงฆ์
พล.ต.ท. คำรณวิทย์ กล่าวรายงานว่า ขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องในจังหวัดอุทัยธานีที่สูญเสียบุตรธิดาจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาเกิดเพลิงไหม้ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 จึงถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของประเทศและจังหวัดปทุมธานี การจัดงานครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย ซึ่งได้รับเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่ามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นทำให้เกิดความไม่สบายใจจึงเป็นเหตุให้เกิดการทำบุญในวันนี้ ซึ่งได้มีการหารือกับทุกหน่วยงาน รวมถึงท่านเจ้าคุณพระวัชรญาณมุนี ว่าต้องส่งดวงวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี จึงได้จัดพิธีถวายสังฆทานและนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 23 รูป เท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิต
อนุทินกล่าวภายหลังพิธีว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้รัฐบาลได้กำชับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานหลักที่ดูแลด้านความปลอดภัย เช่น คมนาคม, มหาดไทย, ตำรวจ ให้กวดขันเข้มงวดกับเรื่องของความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการสาธารณะ ให้มีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งหมดมีกฎหมายอยู่แล้ว เพียงแต่มีกรณีของการละเมิดหรือตั้งใจที่จะทำผิดกฎหมาย ซึ่งได้ดำเนินคดีไปและทำการเพิกถอนใบอนุญาตเจ้าของรถไม่ให้เป็นบริการรถขนส่งสาธารณะ
ส่วนการเยียวยาผู้ประสบเหตุจากสำนักนายกรัฐมนตรีและบริษัทประกันภัยต่างๆ ได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีส่วนที่มาจากการระดมทุนของ ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี ที่จะมีการระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อไปช่วยเหลือผู้ที่เสียชีวิตและผู้ประสบเหตุในครั้งนี้เพิ่มเติมต่อไป
อนุทินกล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอให้ยกเลิกการทัศนศึกษาว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน แทนที่จะไปยกเลิกการทัศนศึกษาควรไปเข้มงวดกวดขันกับผู้ประกอบการทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนส่ง สถานที่ที่ไปทัศนศึกษา อาหารการกิน ต้องมีมาตรฐานและเป็นไปตามระเบียบที่เรากำหนดไว้อย่างเข้มงวด
ด้านชาดากล่าวเสริมถึงการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจะได้เงินประกันทั้งหมดรายละ 3.5 ล้านบาท แต่สำหรับผู้บาดเจ็บรุนแรง 3 คนที่กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลโดย 1 ในนั้นอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่อีก 2 คนอาการยังหนักอยู่ ตนจะระดมทุนช่วยเหลือเพิ่มเติมทั้ง 3 คน คนละกว่า 1 ล้านบาท