×

สว. 67 : อนุทินรู้สึกสมเพชคนด้อยค่า สว. ชี้ ไม่เรียนหนังสือยังเป็นได้ เหตุรัฐธรรมนูญต้องการให้มีคนหลากหลาย

โดย THE STANDARD TEAM
01.07.2024
  • LOADING...

วันนี้ (1 กรกฎาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงด้อยค่า สว. ชุดใหม่ ทั้งในเรื่องวุฒิการศึกษาหรือความเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง โดยอนุทินระบุว่า รู้สึกสมเพชคนด้อยค่า เป็นการแสดงที่ให้เห็นชัดเจนว่าคนที่พูด อย่างเช่น สว. ไม่มีการศึกษา, สว. ขายก๋วยเตี๋ยว, สว. เป็นคนขับรถ, สว. เป็นชาวนา ส่วนตัวเห็นว่าคนที่พูดนั้นด้อยค่ายิ่งกว่า สว. อีก

 

“ผมพูดในฐานะที่เป็นผู้อ่านข่าวคนหนึ่ง อยากให้เข้าใจว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่ากัน นี่คือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญชุดนี้ในการเลือก สว. ที่ต้องการให้มีคนหลากหลาย” อนุทินกล่าว

 

อนุทินกล่าวต่อไปว่า อยากฝากประชาชนตั้งข้อสังเกต อย่าง สส. ต้องจบปริญญาตรี ซึ่งระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือรัฐมนตรีต้องจบปริญญาตรีเป็นขั้นต่ำ แต่ในการเลือก สว. ครั้งนี้ไม่มีการระบุเรื่องของการศึกษา ไม่เรียนหนังสือยังเป็นได้เลย เพราะเขาต้องการเอาคนที่หลากหลาย มีประสบการณ์ในการดำรงชีวิตมา ซึ่งถ้าเราได้มาตามกระบวนการทุกอย่างแล้ว เราก็ต้องเดินต่อไป ป่วยการไปพูดว่าคนนี้มีอาชีพอะไรหรือการศึกษาเป็นอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการขัดเจตนารมณ์ เป็นการแสดงทัศนคติที่เลวร้ายและใช้ไม่ได้

 

มองรัฐบาลมีเสถียรภาพมาก ต้องอยู่ให้ได้

 

อนุทินยังตอบคำถามกรณี ไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุให้จับตาว่าอนุทินจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี และจับมือกับพรรคก้าวไกล หาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง 

 

อนุทินกล่าวว่า “ปั่นกันสนุกเลย แต่คนที่ตายคือผม และผมก็ไม่รู้จักท่าน ข้อเท็จจริงตามที่ท่านพูดผมก็ไม่เคยรู้เรื่อง และผมก็ไม่มีความกระตือรือร้นใดๆ”

 

อนุทินกล่าวต่อไปว่า การทำงานในรัฐบาลชุดนี้ตนเองก็มีความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ รับใช้ประชาชน สนองนโยบายนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่แล้ว ไม่มีอะไรเดือดร้อน ไม่ต้องการที่จะได้ดิบได้ดีอะไรไปมากกว่านี้ ตนเองมีวันนี้ได้ก็มีความพึงพอใจอยู่แล้ว

 

เมื่อถามต่อไปว่ากรณีที่จะไปจับมือกับพรรคก้าวไกลยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 มีเงื่อนไขที่ทำให้วันนี้เกิดรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมา อย่าเพิ่งไปพูดเลย วันนี้เราอยู่รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา และอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงถึง 315 เสียง ถ้ารัฐบาลมีเสถียรภาพขนาดนี้แล้วอยู่ไม่ได้ก็อายเขาตาย และถือว่ามีเสถียรภาพที่สูงที่สุดในรอบ 20-30 ปีเลย ต้องอยู่ให้ได้ และต้องมีความสามัคคีกัน

 

ส่วนกรณีที่ผลโพลล่าสุดคะแนนนิยมของอนุทินออกมาไม่ค่อยดีนั้น อนุทินระบุว่า ไม่เคยสนใจ เพราะที่ผ่านมาตนเองทำงานในกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข ก็สามารถทำงานร่วมกับข้าราชการและผลักดันนโยบายได้ดี เพราะคำนึงถึงเนื้องานและทำด้วยใจ ทำด้วยความสนุก ยึดเป้าหมายเพื่อประชาชนเป็นหลัก

 

อนุทินกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า วันหนึ่งอาจจะไปอยู่กระทรวงวัฒนธรรมก็ได้ ก็จะทำให้ดีที่สุด จากนั้นสื่อมวลชนได้ถามหยอกเย้าว่า “แต่ไม่อยากไปใช่หรือไม่” ทำให้อนุทินตอบกลับว่า “รู้ได้อย่างไร”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising