วันนี้ (25 กันยายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 ได้มอบอำนาจให้ทนายความไปยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งและขอให้สืบสวนและไต่สวน ว่าเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ ฝ่าฝืนมาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
จากกรณีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568 พรรคภูมิใจไทย จัดเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับ จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคภูมิใจไทย หมายเลข 2 ที่ศาลาอเนกประสงค์ อำเภอขุนหาน จังหวัดศรีสะเกษ
อนุทินได้ปราศรัยหาเสียงด้วยข้อความตอนหนึ่งว่า “และนี่สำคัญที่สุด เป็นสุดยอดดวงใจของผม เลขาคู่ใจของผม ทำงานแทนผม หัวใจมีแต่คนศรีสะเกษ กวาง ที่เดี๋ยวนี้เรียกเขาว่า ถ้าอีนั่นเป็นได้ อีนี่ก็เป็นได้ นี่ไงครับ นี่คือ เลขากวาง เที่ยวหน้าเป็น สส.นะครับ แต่เที่ยวนี้ขอขโมยตัวพี่น้องชาวศรีสะเกษ เพราะผมได้ทำหน้าที่นายกฯ แล้ว เอาเลขาฯ กวาง คนศรีสะเกษ มาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โอเคไหม เพราะฉะนั้นพี่น้องชาวศรีสะเกษเห็นหรือยังว่า ภูมิใจไทยพูดแล้ว เว้าแล้วเฮ็ด พูดแล้วทำ”
นอกจากนี้ ยังมองด้วยว่า การที่อนุทินดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แม้ตามกฎหมายจะมิได้ห้ามมิให้อนุทินช่วยผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่การกล่าวปราศรัยสัญญาว่าจะแต่งตั้งให้ ไตรศุลี ไตรสรณกุล ซึ่งเป็นญาติสนิทกับผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มิใช่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่พึงต้องปฏิบัติในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่เป็นการใช้ตำแหน่งของการเป็นนายกรัฐมนตรีโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเป็นคุณแก่ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย และเป็นโทษแก่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 78 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 149 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
