วันนี้ (19 มิถุนายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะและหารือเกี่ยวกับโครงการจับคู่ท่องเที่ยวกับต่างประเทศที่บริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี หรือ Travel Bubble
โดยระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบและย้ำในมาตรการความปลอดภัยการดำเนินโครงการจับคู่ท่องเที่ยวกับต่างประเทศ ต้องยึดหลักการจำกัดกลุ่มที่จะเดินทาง เบื้องต้นจะเน้นกลุ่มนักธุรกิจ โดยยังไม่เปิดกว้างให้นักท่องเที่ยว จะกำหนดระยะเวลาและจำกัดการเดินทาง มีบริษัทหรือหน่วยงานต้นสังกัดให้การรับรอง ควบคู่กับมาตรการตรวจสุขภาพก่อนเดินทาง (Fit to Fly) ตรวจทั้งก่อนและเมื่อมาถึงประเทศไทย
โดยในรายละเอียดนั้น ทางกรมควบคุมโรคได้กำหนดเงื่อนไขต่างๆ ไว้แล้ว เหลือเพียงการเพิ่มเติมในรายละเอียดและนำเข้าสู่การประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันที่ 26 มิถุนายน 2563 เพื่อพิจารณาตัดสินใจ
“สถานการณ์ในประเทศตอนนี้มีเพียงผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศอยู่ในการกักตัวสังเกตอาการ มาถึงวันนี้จึงต้องพิจารณามาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า ซึ่งผลจากโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปมาเพื่อทำธุรกิจได้ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยยืนยันว่าการผ่อนคลายในแต่ละมาตรการจะพิจารณาอย่างรอบคอบ เราต้องหารือเกี่ยวกับวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด ทั้งแพทย์และประชาชนต้องรู้สึกพอใจกับมาตรการที่เกิดขึ้น และให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด” อนุทินกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
