วันนี้ (20 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2568 กว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยเข้ม สั่งเก็บมือถือผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด
อนุทินย้ำว่า ปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ ที่จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรุ่งนี้เพื่อให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน ยืนยันว่าทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่ มีการยึดทรัพย์ไปแล้วระดับหมื่นล้านบาท แต่ขาดการประชาสัมพันธ์”ทำให้คนไม่รู้ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้อยู่เฉย และได้สั่งการยาแรงให้ กสทช. ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและตัดการสนับสนุนพลังงานในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะที่ติดกัมพูชา ซึ่งสามารถหยุดการให้บริการหรือสนับสนุนคนทำผิดกฎหมายได้ทันที
อนุทินยังปฏิเสธข่าวการตั้ง วรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานอนุกรรมการฯ พร้อมย้ำว่า ยังไม่มีการเสนอชื่อใครทั้งนั้น
ส่วนกระแสข่าว 7 นักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ อนุทินระบุว่า ตนก็รอรายชื่อเหมือนกัน พร้อมขอฝ่ายค้านว่า หากมีข้อมูลเรื่องสแกมเมอร์ ขอให้เปิดเผย จะได้ง่าย ไม่ต้องคาดเดา ขอให้ส่งรายชื่อมาอย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าหากพบจะไม่ดูว่าชื่อหรือตำแหน่งอะไร ถ้ามีพฤติกรรมชัดเจนใครผิดก็ต้องดำเนินการ ส่วนที่ สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ออกมาระบุข้อมูลเชื่อมโยงสแกมเมอร์ ยอมรับว่าไม่ยังไม่ได้อ่านข้อมูลดังกล่าว
อนุทินยังเผยว่า ตกใจที่พบว่า มีผู้ที่กระทำความผิดถือสัญชาติไทย และถือสัญชาติอื่นด้วย ซึ่งเป็นที่มาที่ตนไม่ยอมเซ็นมอบสัญชาติให้ และได้สั่งการให้ไปถอนสัญชาติแล้ว ส่วนปัญหาชายแดนกับกัมพูชา ย้ำว่าเรื่องนี้จะค้างเติ่งแบบนี้ไม่ได้ ต้องหาข้อสรุปว่าจะสู้กันต่อ ประจันหน้ากัน หรือต่างคนต่างไป ต่างคนต่างยอมรับเงื่อนไข