วันนี้ (28 กันยายน) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 กันยายนนี้ โดยระบุว่า ร่างนโยบายเราได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 กันยายน) นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายให้ที่ประชุมรัฐสภาได้รับทราบ
อนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ เราทำงานต่อเนื่องมากว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก เราสามารถสานต่อนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น
สำหรับผลโพลหลายสำนักสะท้อนว่า คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีก็เพิ่มขึ้น อนุทินกล่าวว่า เราจะต้องไม่หลงใหลได้ปลื้มกับโพลความนิยม หากถามว่าดีใจหรือไม่ ก็ดีใจ เป็นเครื่องเตือนสติว่า มีความคาดหวังเกิดขึ้นจากประชาชน ซึ่งการที่ประชาชนคาดหวัง ให้กำลังใจ และให้ความเชื่อมั่น
“ถือเป็นน้ำทิพย์ชโลมจิตใจ เราก็ต้องทำงานอย่างหนัก ทำงานตอบแทนเพื่อไม่ให้น้ำทิพย์ที่เป็นยาพิษ” อนุทินระบุ
อนุทินยังยอมรับว่า กดดัน เพราะการทำงานต้องมีแรงกดดัน แต่เราต้องไม่ท้อถอย และต้องทุ่มเท ซึ่งสไตล์การทำงานของพรรคภูมิใจไทย หากจำได้คือการทำได้เร็ว ทำได้เลย ซึ่งช่วงเวลาที่ไม่ยาวนานนัก ก็เข้ารูปแบบการทำงานของพรรคภูมิใจไทย เราอาจจะผ่านมาในช่วงที่ประเทศไทยต้องการเห็นผล Quick Win มาโดนตลอด ดังนั้น เราจึงมีความคล่องตัว และถนัดในการทำงานแบบ Quick Win และขณะเดียวกันจะมีการวางแผน และวางฐานให้กับรัฐบาลชุดต่อไป เพื่อเข้ามาสานต่อได้
ยกถ้อยแถลงสีหศักดิ์เวที UNGA สมบูรณ์แบบ
ส่วนนโยบายใดจะเห็นได้ทันทีหลังแถลงนโยบาย อนุทินกล่าวว่า เห็นแล้วหรือไม่ว่า การที่ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมสหประชาชาติ (UNGA) ก็เชื่อว่า ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นชัดเจนว่าจุดยืนของรัฐบาลนี้เป็นอย่างไร ซึ่งสีหศักดิ์ได้นำแนวทางและนโยบายของรัฐบาลหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนเดินทางไป
อนุทินกล่าวต่อไปว่า ถือว่าสีหศักดิ์ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีความภาคภูมิใจ คนที่ตั้งมาก็ดีใจว่า บุคคลที่มอบหมายให้มาทำงานมีความเชี่ยวชาญ และถนัดในด้านนี้
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่ากรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปร่วมประชุม UNGA อาจเสี่ยงขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากยังไม่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น อนุทินกล่าวว่า ให้ไปดูมติ ครม. ความจำเป็นเร่งด่วน ถ้าสิ่งที่ท่านได้ทำในวันนี้ แล้วยังบอกว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับประเทศ ก็ไม่ทราบว่าจะตีความอย่างไรแล้ว
“จริงๆ ก็ไม่ควรถามคำถามนี้ เพราะถามแล้วจะให้ประชาชนสับสนเปล่าๆ” อนุทินระบุ พร้อมย้ำว่า สิ่งที่สีหศักดิ์ทำเป็นการทำความสง่างาม ทำให้ประเทศไทยมีศักดิ์ศรี ทำให้คนรู้ว่าประเทศไทยของเรารักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู
อนุทินย้ำด้วยว่า ความจริงจะเดินทางไปเองด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่ต้องมานั่งถามว่าจะไปได้หรือไม่ เพราะการไปต่างประเทศโดยที่รัฐบาลยังไม่แถลงนโยบาย เป็นคนละเรื่องกันเลย แต่มั่นใจในประสบการณ์ และความสามารถของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงกล้ามอบหมายให้ท่านไปปฏิบัติหน้าที่
ย้ำประเทศไทยต้องอดทนรับมือกัมพูชา
สำหรับกรณีที่กัมพูชายังมีการยั่วยุนั้น อนุทินกล่าวว่า ปกติเราต้องอดทนต่อการยั่วยุแบบนี้ ยิ่งเราอดทนได้มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ยิ่งทำให้ชาวโลก นานาชาติเห็นว่า ประเทศไทยเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง และด้วยวัฒนธรรมประเพณีของไทยไม่เคยไปรุกรานใคร ดูจากประวัติศาสตร์ได้ บทเรียนที่ผ่านมา จะเห็นความอัปยศอดสู สูญเสียอธิปไตย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ตนเองจะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย
“คำว่าอดทนคือ ประเทศไทยต้องอดทน ส่วนประชาชน เราจะเร่งจัดการเรื่องความปลอดภัยให้ หากถึงเวลาที่จะต้องตอบโต้ แต่ขณะนี้ไม่เหมือนกับการทำงานในรัฐบาลชุดที่แล้ว ผมไม่ได้ไปโทษอะไร เพราะสมัยที่ผมอยู่ในรัฐบาลที่แล้ว ก็ควบคุมได้เฉพาะฝ่ายปกครอง ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ 100% กับฝ่ายทหาร ต้องผ่านตัวกลาง แต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลชุดนี้ ผมจึงไม่มีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เพราะผมให้ความสำคัญ นายกรัฐมนตรีจึงดูแลเองทั้งฝ่ายทหาร ปกครอง ตำรวจ 3 หน่วยงาน ที่จะทำให้สามหน่วยงานผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวกันที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ขณะเดียวกัน ต้องดูแลไม่ให้ประเทศไทยถูกรุกราน” อนุทินกล่าว
